ความมืดมนของคาร์คิฟ : ความขัดแย้งที่คล้ายคลึงกันในเมียนมาและยูเครน

รัฐบาลทหารพม่าใช้กลยุทธ์ “ตัดการเข้าถึงสี่อย่าง” ยังไม่สามารถยับยั้งแรงหนุนที่ประชาชนมีต่อรัฐบาลเงา อาบูซากล่าว
บทวิเคราะห์โดย ซาคารี อาบูซา
2022.03.17
Share on WhatsApp
Share on WhatsApp
ความมืดมนของคาร์คิฟ : ความขัดแย้งที่คล้ายคลึงกันในเมียนมาและยูเครน หญิงที่ได้รับบาดเจ็บยืนอยู่นอกโรงพยาบาล หลังจากเหตุระเบิดในเมือง Chuguiv ทางตะวันออกของยูเครน วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ขณะที่กองทัพรัสเซียบุกยูเครน (ภาพซ้าย) (เอเอฟพี) ผู้ประท้วงดึงเสื้อของเพื่อนที่ล้มลงหลังถูกทหารปะทะ ในเมืองลายทายา ประเทศเมียนมา เมื่อ 14 มีนาคม 2564
เอเอฟพี

ขณะที่สงครามในยูเครนกำลังยืดเยื้อ โดยไม่มีวี่แววว่ารัสเซียจะชนะในเวลาอันใกล้ เรากำลังเห็นถึงความคล้ายคลึงกันอย่างมากระหว่างสงครามนี้กับความขัดแย้งในเมียนมา ซึ่งไม่เป็นข่าวใหญ่อีกต่อไปแล้ว

การจู่โจมของรัสเซียในยูเครนเริ่มอ่อนกำลังลง และรัสเซียเริ่มหันไปใช้อาวุธสงครามนำวิถีและปืนใหญ่เพื่อโจมตีทางอากาศแบบไม่เจาะจงเป้าหมายมากขึ้น รัสเซียไม่มีกำลังเพียงพอที่จะยึดครองเมืองต่าง ๆ ได้ จึงล้อมเมืองเหล่านี้ไว้และใช้การยิงปืนใหญ่จากระยะไกลแทน

รัสเซียกำลังจงใจโจมตีพลเรือน ตึกรามบ้านช่อง และโรงพยาบาล เช่นเดียวกับกองทัพของเมียนมา กองกำลังของรัสเซียได้ปิดล้อมและกันไม่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพลเมืองยูเครน โดยแก้ตัวว่า นั่นเป็นแค่ความเสียหายข้างเคียงที่ไม่ได้เจตนาให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้

ทัดมาดอว์ ชื่อทางการของกองทัพเมียนมา ได้ทำลายหมู่บ้านและเผาบ้านเรือนอย่างน้อย 6,700 หลัง ตามกลุ่มข้อมูลสำหรับเมียนมา เพื่อเป็นการลงโทษที่กองทัพไม่สามารถเข้ายึดดินแดนได้

กระนั้นก็ตาม กลยุทธ์อันโหดเหี้ยมของกองทัพเมียนมาในการ “ตัดการเข้าถึงสี่อย่าง” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้มานานหลายทศวรรษ เพื่อกันไม่ให้ราษฎรในพื้นที่ให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อความไม่สงบ ก็ไม่สามารถยับยั้งประชาชนให้เลิกสนับสนุนรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือรัฐบาลเงาของเมียนมาได้ นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว

ทั้งรัสเซียและเมียนมาต่างพึ่งพาทหารเกณฑ์ที่ขาดการฝึกฝนและขาดขวัญและกำลังใจ ขณะที่กำลังรบของรัสเซียลดน้อยถอยลงเพราะทหารเสียชีวิต บาดเจ็บ หรือหนีทัพ เรากำลังเห็นว่าผู้นำรัสเซียเรียกทหารรับจ้างจากเชชเนีย ซีเรีย และ Wagner Group กลุ่มนักรบรับจ้าง มาเสริมแทน

 220317-abuza-2.jpg

ทหารยูเครนและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงค้นหาในซากอาคารที่โดนระเบิดโจมตีพังทลาย ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน วันที่ 14 มีนาคม 2565 (ภาพซ้าย) (เอพี) อาคารที่ถูกเผาทำลายโดยกองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมา จากภาพถ่ายทางอากาศ เมืองมินจิน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 (เอเอฟพี)

ในเมียนมา ขณะที่กองทัพเมียนมาค่อย ๆ อ่อนกำลังลง ได้มีการพึ่งพากองกำลังติดอาวุธปยูซอทีมากขึ้น

ทั้งสองรัฐบาลเพิ่มการจับกุมผู้เห็นต่าง รัสเซียได้สั่งห้ามสื่อเกือบทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ส่งผลให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศส่วนใหญ่ต้องออกจากรัสเซีย รัสเซียกำลังเปลี่ยนระบบอินเทอร์เน็ตของประเทศไปเป็นระบบอินทราเน็ตแบบของจีน

ในเมียนมา รัฐบาลทหารพยายามตัดระบบอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่เสียหายจากความขัดแย้ง รวมทั้งเขตสะกาย เพื่อไม่ให้มีหลักฐานแสดงความทารุณของรัฐบาล ขณะเดียวกับที่มีการคอยตรวจตราสื่อสังคม เพื่อดูว่าใครบ้างที่เห็นต่างจากรัฐบาลทหาร ในทั้งสองประเทศนี้ การทำร้ายและจับกุมนักข่าวยังคงดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับทั้งบรรดาเมืองเล็กและใหญ่ที่รัสเซียเข้ายึดครอง กองทัพเมียนมายังได้รวบรัดสังหารพลเรือนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

ผู้นำของทั้งสองประเทศเชื่อว่า หากใช้ความรุนแรงมากพอ ก็จะทำให้พลเรือนสยบและสมยอมได้ และจะสามารถหลบเลี่ยงความรับผิดชอบทั้งหมดได้ ในการสู้รบเมื่อเร็ว ๆ นี้ในเมียนมา พลเรือนกว่าหกสิบคนถูกเผาจนตาย ซึ่งรัฐบาลทั้งสองประเทศไม่ได้พยายามปกปิดอาชญากรรมสงครามที่ตนเองก่อขึ้น กลับอยากให้ทุกคนได้เห็น เพื่อขู่ให้กลัว

ทั้งสองรัฐบาลต่างก็เชื่อว่าตนจะต้านทานการคว่ำบาตรของนานาชาติได้ และต่างก็ไม่สนใจวิกฤตเศรษฐกิจที่ตนกำลังก่อ ได้ทำร้ายประชาชนของตนอย่างไร้ความปราณี ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมาของทั้งสองประเทศนี้ได้ถูกผู้นำรัฐบาลของตนทำลายลงอย่างรวดเร็ว

รัฐบาลทหารในเมียนมาทำให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัวลงร้อยละ 18 ในปี 2564 ขณะนี้ ชาวเมียนมากว่าครึ่งหนึ่งของประเทศกลายเป็นคนยากจนข้นแค้น รัฐบาลทั้งสองถูกคว่ำบาตร และการค้ากับต่างประเทศลดลงอย่างมาก ปัจจุบัน ชาวเมืองย่างกุ้งกำลังเผชิญกับการขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำ

ความกล้าหาญอันเหลือเชื่อ

สงครามในสองประเทศนี้ ทำให้เราเห็นถึงความกล้าหาญอันเหลือเชื่อของประชาชน แม้จะมีความหวังที่แสนจะริบหรี่ก็ตาม เราได้เห็นชาวยูเครนหยิบอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้กับกำลังทหารของรัสเซีย ตลอดจนกองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) และกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ (EAO) ของเมียนมาที่ร่วมพันธมิตรกัน แต่ความหวังที่จะรบชนะได้นั้นก็แทบจะไม่มี ถึงแม้กองทัพเมียนมาจะมีกำลังรบน้อยกว่าก็ตาม แต่ก็ยังมีอาวุธยุทธภัณฑ์มากกว่าและมีประสิทธิภาพกว่าของ PDF ทั้งยังมีอำนาจในการเกณฑ์ทหารเพิ่มได้ด้วย

เฉกเช่นเดียวกับกองทัพรัสเซีย - กองทัพเมียนมาก็ไม่แข็งแกร่งและมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่แย่กว่าที่เห็นในงบประมาณ เพราะการทุจริตของรัฐบาล ลัทธิเผด็จการมีแนวโน้มที่จะทำให้สถาบันส่วนใหญ่อ่อนแอลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงของประเทศ

เมื่อ PDF นำยุทโธปกรณ์ที่ยึดมาหรือทหารเชลยศึกที่ถูกจับออกมาแสดง ต่างเป็นที่น่าตกใจที่ได้เห็นว่าทหารเชลยศึกเหล่านั้นมีอาวุธยุทโธปกรณ์ด้อยประสิทธิภาพ ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลทหารดูเหมือนจะให้ความสำคัญและงบประมาณจำนวนมากกับการทหาร แต่เห็นได้ชัดว่างบประมาณด้านการทหารส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับสิ่งเชิดหน้าชูตาต่าง ๆ ขณะที่ทหารเกณฑ์วัยเยาว์ที่สู้รบในสงครามกลับได้รับอาหาร อาวุธ และยุทโธปกรณ์ที่คุณภาพต่ำ

PDF ยังคงมีปัญหาต่อไปในการระดมทุนเพื่อซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ล่าสุดจากที่เราได้เห็นการต่อสู้หลายครั้งที่กำลังรบของ PDF จำนวนสิบกว่าคนถูกสังหาร เพราะกระสุนปืนหมด รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเพิ่งประกาศออกมาว่า ปีนี้ PDF จะได้รับงบประมาณ 30 ล้านดอลลาร์

แม้ตัวเลขนี้จะมากสำหรับกองกำลังอาสาสมัครที่มีสถานะต่ำกว่ารัฐก็ตาม แต่ก็ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับงบประมาณของกองทัพเมียนมา กองทัพรัสเซียและกองทัพเมียนมาสามารถลากสงครามให้ยืดเยื้อออกไปได้ โดยอาศัยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มากกว่าอย่างเทียบไม่ได้

แม้กระนั้นกองกำลังของยูเครน PDF และ EAO ยังมีขวัญและกำลังใจดี มีวินัยค่อนข้างสูง และมีสาเหตุอันชอบธรรมที่ทำให้คนลุกขึ้นมาต่อสู้ คนเหล่านี้ยึดมั่นในหลักการสูงเมื่ออยู่ในสนามรบ โดยพยายามที่จะไม่ก่ออาชญากรรมสงคราม ไม่โจมตีพลเรือนโดยเจตนา หรือไม่ปล้นสะดมและลักทรัพย์ ซึ่งทำให้พวกเขาเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากประชาชน

สิ่งหนึ่งที่ PDF และ EAO ไม่ได้ให้ความสนใจมากพอก็คือ การมุ่งโจมตีเส้นทางส่งกำลังที่ยาวและล่อแหลมของกองทัพเมียนมา กองทัพเมียนมาไม่เคยสู้รบในหลายแนวรบพร้อมกัน และไม่เคยต้องสู้รบในพื้นที่ใจกลางที่สำคัญของกลุ่มชาติพันธุ์บามาร์ที่เป็นชนกลุ่มใหญ่มาก่อน

ฝ่ายเสียเปรียบ

ชาวยูเครนได้ถือโอกาสอย่างมากในการจู่โจมจุดอ่อนนี้ของรัสเซีย ขณะที่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติอาจร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบคนนำไปมา ซึ่งคือขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ วิธีที่ดีที่สุดในการจู่โจมเป้าหมายทางอากาศของกองทัพเมียนมาคือ การจู่โจมแหล่งเก็บเชื้อเพลิงอากาศยาน

ไม่ว่าเราจะเชียร์ฝ่ายที่เสียเปรียบในยูเครนและเมียนมามากเพียงใดก็ตาม เห็นได้ชัดว่าทั้งสองไม่น่าจะมีชัยชนะในการรบกับกองทัพทหาร แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ หากทั้งสองประเทศใช้กำลังรบแบบกองโจร เพียงแต่ต้องไม่แพ้เท่านั้น

 220317-abuza-3.jpg

มารีนา โอฟไซยานิโควา บรรณาธิการข่าวชาวรัสเซีย ของสถานีโทรทัศน์แชนเนลวัน ถือโปสเตอร์ "หยุดสงคราม อย่าเชื่อโฆษณาชวนเชื่อ เขากำลังโกหกคุณ” ระหว่างการออกอากาศรายการข่าวภาคค่ำในมอสโก ที่มีผู้ชมมากที่สุดของรัสเซีย วันที่ 14 มีนาคม 2565 (ภาพซ้าย) (เอเอฟพี/แชนเนลวัน) ยูกิ คิตาซูมิ นักข่าวชาวญี่ปุ่นยกมือสองข้าง ขณะตำรวจคุ้มกันตัวมาถึงสถานีตำรวจเมียนิโกน ในกรุงย่างกุ้ง เมียนมา เมื่อ26 กุมภาพันธ์ 2564 (เอพี)

พลเรือนติดอาวุธเหล่านี้ จะต้องทำให้กำลังทหารที่เข้ายึดครองเกิดความเหนื่อยล้า ทำให้กำลังทหารติดกับสงครามที่บั่นทอนและยืดเยื้อ ซึ่งทำให้กองทหารต้องใช้การโจมตีอย่างป่าเถื่อนและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง อันจะทำให้พลเรือนเกิดความโกรธแค้นและเกลียดชังกำลังทหารมากขึ้นไปอีก เพียงแค่นั้นก็จะถือว่า PDF ทำได้อย่างน่าชื่นชมแล้ว ความขัดแย้งในสองประเทศนี้ น่าจะจบลงจากภายในเอง ในรัสเซีย ผู้มีอิทธิพลทางธุรกิจและการเมืองในรัสเซียอาจไม่ท้าทายประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพราะไม่มีทางที่จะบีบให้ปูตินทำสิ่งที่ตนต้องการได้ ภัยคุกคามที่ปูตินจะเผชิญนั้น น่ามาจากกองกำลังรักษาความมั่นคงของเขาเอง เพราะเขามักตำหนิกองกำลังทหารว่า ปฏิบัติการได้แย่มาก

ภัยคุกคามที่แท้จริงต่อผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา พล.อ.อาวุโส มิน ออง ลาย และ พล.อ. โซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด มาจากเหล่าทหารยศนายพลและนายพันระดับต่ำกว่า ผู้ที่ไม่ได้รับส่วนแบ่งผลประโยน์ใด ๆ จากรัฐบาลทหาร หากเขาเหล่านี้คือ ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานการทำสงคราม และเป็นผู้ที่เข้าใจว่าด้วยจำนวนทหารที่เสียชีวิตและหนีทัพ ทำให้กองทัพขาดกำลังคนที่จะยึดครองดินแดน และเขาเหล่านี้คือ ผู้ที่รู้ว่ากองทัพทหารน่ารังเกียจเพียงใด และรัฐบาลทหารของตนมีความชอบธรรมน้อยนิดเพียงไหน

อีกทั้งพวกเขาที่รู้ว่า สงครามนี้ไม่สามารถเอาชนะกันได้ พวกเขาเป็นคนที่จะยังปกป้องสิ่งที่หลงเหลือจากผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสถาบันของกองทัพ หากแต่การจะทำเช่นนั้นได้ ต้องใช้การเจรจาต่อรองเท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้ยาก ตราบใดที่ผู้นำระดับสูงชุดนี้ยังอยู่ในอำนาจ

 220317-abuza-4.jpg
วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมกับสมาชิกรัฐบาลผ่านลิงก์วิดีโอในมอสโก วันที่ 10 มีนาคม 2565 (ภาพซ้าย) พลเอก มิน ออง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในการรัฐประหารเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นประธานในพิธีสวนสนามวันกองทัพ ในกรุงเนปิดอว์ เมื่อ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564 (รอยเตอร์)

ซาคารี อาบูซา เป็นอาจารย์ประจำที่เนชั่นแนล วอร์ คอลเลจ และอาจารย์พิเศษ ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ ทาวน์ ในกรุงวอชิงตัน ความคิดเห็นที่แสดงไว้ในบทความนี้เป็นของผู้เขียนเอง และไม่ได้สะท้อนถึงจุดยืนของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เนชั่นแนล วอร์ คอลเลจ มหาวิทยาลัยจอร์จ ทาวน์ หรือ เบนาร์นิวส์

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง