ศาลมาเลเซียสั่งจำคุกหนึ่งปี ชายสัญชาติไทย สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอาร์รายาห์
2018.09.27
กัวลาลัมเปอร์
ศาลมาเลเซียตัดสินจำคุก ชายสัญชาติไทย เป็นเวลา 1 ปี โดยเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่เรียกว่า อาร์รายาห์ (Ar-Rayah) ในประเทศมาเลเซีย แต่ถูกศาลจำคุกในข้อหาอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต หลังจากที่เขารับสารภาพ
นิฮ็อก นิเฮ วัย 50 ปี อาศัยอยู่ในเขตปาเซร์ ปูเตห์ (Pasir Puteh) ทางตอนเหนือของรัฐกลันตัน ที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมปีนี้
นายนิฮ็อก ถูกตั้งข้อหาว่าอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต โดย โมห์ด ยูโซฟฟ์ ยูนัส ผู้พิพากษาของศาลในเขต ปาเซร์ มาส ภายใต้มาตรา 15 (1) (c) ของพระราชบัญญัติการเข้าเมืองแห่งถิ่นที่อยู่ 1959/63 ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด RM 10,000 ริงกิตมาเลย์ (หรือประมาณ 78,155 บาท) หรือจำคุกห้าปี หรือทั้งจำและปรับ
โดยผู้พิพากษาได้สั่งจำคุก นายนิฮ็อก เป็นเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ถูกจับกุม ที่เรือนจำมาชัง ในรัฐกลันตัน และสั่งให้เนรเทศกลับประเทศตนหลังจากได้รับโทษครบกำหนด
นายนิฮ็อก มีท่าทีสงบต่อหน้าศาล โดยไม่มีทนายความช่วยเหลือในคดี และไม่มีสมาชิกครอบครัวเข้าร่วมฟังในศาล
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายนิฮ็อกได้เดินทางมาถึงศาลภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามและต่อต้านการก่อการร้ายประจำรัฐ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกล่าวต่อศาลว่า ภรรยาของนายนิฮ็อก ที่อยู่ในจังหวัดปัตตานี ตอนใต้ของประเทศไทยได้รับแจ้งถึงเรื่องการดำเนินคดี ในวันพฤหัสบดีนี้แล้ว
นายนิฮ็อก เป็นหนึ่งในห้าคน ที่ถูกกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งถูกคุมขังภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายและการรักษาความปลอดภัย (มาตรการพิเศษ 2012) พ.ศ. 2555 หรือ Sosma ในข้อหาเป็นสมาชิกขบวนการการก่อการร้ายใน WhatsApp ที่เรียกว่า “อาร์รายาห์” (Ar-Rayah)
กลุ่มดังกล่าวต้องการที่จะก่อปัญหาในบริเวณจุดศูนย์กลางที่สำคัญๆ ของรัฐเกดะห์, ปีนัง และมะละกา
โดยการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ชายไทยผู้นี้ได้รู้จักกับ ต็อก เซอร์บัน (Tok Serban) ในเฟสบุ๊ค เมื่อสามเดือนที่แล้ว ผู้ซึ่งแสดงความประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาวมุสลิมที่ถูกกดขี่ เด็กกำพร้าและมารดา หญิงหม้ายที่เลี้ยงลูกคนเดียว ในปัตตานี
นายนิฮ็อกสนใจข้อเสนอของ ต็อก เซอร์บัน และให้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขา ซึ่งถูกแจ้งรวมอยู่ในกลุ่ม "WhatsApp" ของอาร์รายาห์ ด้วย
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย ซึ่งเชื่อว่า นายนิฮ็อก เป็นสมาชิกของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนจากชายแดนใต้ของไทย โดยแหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติสุขในจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก
"ผู้ต้องสงสัย (นายนิฮ็อก) ยังได้รับมอบหมายให้มีส่วนร่วมกับสมาชิกในกลุ่ม เพื่อร่วมบริจาคเงินในการซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืน" เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกล่าวในการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 14 กันยายน "ตำรวจได้ตรวจยึดระเบิดควันห้าลูก ขณะบุกเข้าจับกุมกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มอาร์รายาห์"
แหล่งข่าวที่รู้เรื่องคดีนี้ดีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาหลักฐานชี้ชัดในข้อหาก่อการร้ายของนายนิฮ็อก จึงทำให้เขาโดนข้อหาพระราชบัญญัติการเข้าเมืองแทน โดยแหล่งข่าวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้
รัฐบาลมาเลเซียได้แต่งตั้ง นายอับดุล ราฮิม นูร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย ให้เป็นผู้อำนวยความสะดวกของมาเลเซีย ในการพูดคุยสันติสุข เพื่อประสานยุติความขัดแย้งที่ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,500 รายแล้ว ในจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย นับตั้งแต่ปี 2547