ตำรวจออกหมายจับพลโท มนัส คงแป้น ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์และข้อหาแวดล้อม

ในวันจันทร์ (1 มิถุนายน 2558) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งสื่อมวลชนให้ทราบว่าได้มีการออกหมายจับนายทหารยศระดับนายพล ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นนายทหารระดับนายพลรายแรกที่ต้องหมายจับในคดีดังกล่าว

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 58 ศาลจังหวัดนาทวี ได้อนุมัติหมายจับ ที่ 258/2558 ที่มีต่อ พลตรี มนัส คงแป้น (ตำแหน่งที่ระบุตามหมายจับ) อายุ 58 ปี ในข้อหากระทำความผิดฐานสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฏหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่

ในหมายจับ ได้ระบุว่า เหตุเกิดที่ประเทศบังคลาเทศ ประเทศเมียนมา ประเทศไทยในจังหวัดระนอง พังงา สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล และค่ายที่พักชั่วคราว ป่าเทือกเขาแก้ว หมู่ที่ 8 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และประเทศมาเลเซีย เกี่ยวพันกัน เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2555 ถึง วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เวลากลางวันกลางคืนต่อเนื่องกัน

ทั้งนี้ พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อาศัยความตามหมายจับ ได้แจ้งให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ ให้จับกุมตัว พลโท มนัส คงแป้น อายุ 58 ปี เชื้อชาติไทย สัญ ชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 3 ตำบลกรูด อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ไปส่งที่สถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ภายในอายุความ 20 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2558 เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฏหมาย แต่ไม่เกินวันที่ 1 พฤษภาคม 2578

พลโท มนัส นับเป็นนายทหารระดับสูงคนแรกที่ถูกออกหมายจับในข้อหาค้ามนุษย์ หลังเกิดวิกฤตการณ์ผู้อพยพย้ายถิ่นชาวโรฮิงญา ที่มีการพบค่ายกักกันและหลุมศพชาวโรฮิงญากว่า 30 ศพ บนเทือกเขาแก้ว ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ตลอดเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำฝ่ายปกครองท้องที่ รวมทั้ง นักธุรกิจ ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดระนอง พังงา สตูล และสงขลา รวม 84 คน จับกุมตัวได้แล้ว 51 คน ยังเหลืออีก 33 คน ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี โดยรายของ พลโท มนัส นับเป็นผู้ต้องหารายที่ 85

พลโท มนัส คือผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เคยดำครงตำแหน่งผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยกที่ 1 ระนอง รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาแรงงานพม่าและการลักลอบเข้าเมืองของชาวโรฮิงญา นอกจากนั้น ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของการสอบสวนนั้นมีความคืบหน้าไปมาก และพยานหลักฐานต่างๆ เพียงพอที่จะเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ส่วน นายณัฐภัทร แสงทอง หรือ โกมิ๊ก หนึ่งในผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง ถูกจับกุมที่ประเทศเมียนมา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานขอนำตัวกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญา ในส่วน ของ กอ.รมน. นั้นได้มีการจัดศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย  ซึ่งเป็นความริเริ่มของประเทศ เพื่อพิสูจน์ว่าประเทศไทยได้ให้ความสำคัญในการรักษาทุกชีวิต

“เราเน้นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก หากพบหลบหนีเข้าเมืองจะดำเนินการตามกฎหมาย และหากตรวจพบนอกอาณาเขต จะมีการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม โดยจัดอาหาร และช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ป่วย ขณะนี้ ชาวโรฮิงญาที่ได้รับการดูแลจากทั่วประเทศ มีทั้งสิ้น 779 คน” พ.อ.บรรพต