แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ประกาศแก้ปัญหายาเสพติด

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ กล่าวในระหว่างการเยี่ยมคารวะจุฬาราชมนตรี ที่บ้านพักในจังหวัดสงขลา เมื่อวันอาทิตย์ว่า จะกวาดล้างแก้ปัญหายาเสพติดเป็นสิ่งแรก โดยมองว่ามีความรุนแรงมากกว่าปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.ท.พรศักดิ์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มานาน และเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พบว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีความรุนแรง และเป็นที่กังวลของประชาชนในพื้นที่ โดยสะท้อนผ่านการทำการสอบถามความคิดเห็น และการแสวงบุญที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งประชาชนชาวไทย-มุสลิมจำนวนหนึ่งยังขอพรให้บุตรหลานไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

“ได้เตรียมมาตรการเชิงรุก กวาดล้างยาเสพติดครั้งใหญ่ โดยประสานข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง กำหนดเป้าหมายการกวาดล้างจุดแพร่ระบาดเอาไว้ 7,000 เป้าหมาย” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว

พล.ท.พรศักดิ์ระบุว่า จากการรวบรวมข้อมูล เบื้องต้นทหารมีเป้าหมาย 5,000 เป้าหมาย ตำรวจ 2,000 กว่าเป้าหมาย โดยจะเริ่มดำเนินการตามแผนทันที ด้วยการส่งกำลังเข้าไปตรวจตรา กดดัน จับกุม โดยประสานกับ ป.ป.ส. และขอให้ ป.ป.ส. เป็นเจ้าภาพร่วมมือกับภาคประชาสังคม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการดำเนินการแก้ปัญหา

“ชาวบ้านเชื่อว่า สาเหตุที่ยาเสพติดยังระบาดได้ และเร่ขายกันเกร่อ ก็เพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าหากพบจะจัดการขั้นเด็ดขาด ไม่เก็บไว้แน่ ไม่ว่าหน่วยไหน โดยเฉพาะทหาร ต้องลงโทษอย่างเฉียบขาด ทั้งทางวินัยและอาญา” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

“คิดว่าเรื่องนี้ไม่มีใครค้าน เพราะทุกคนเห็นปัญหาตรงกันหมด ผลสำรวจจากการทำโพล ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า คนในพื้นที่หนักใจปัญหายาเสพติดมากที่สุด ไม่ใช่ความไม่สงบ แต่การทำงานไม่ได้ใช้ทหารนำ จะใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคประชาสังคม ส่วนทหารเป็นกองหนุน ฉะนั้นกำลังและอาวุธที่ใช้ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะไม่ได้ไปรบ แต่ไปทำงานในชุมชน เพื่อให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจ” พล.ท.พรศักดิ์ ระบุ

พล.ท.พรศักดิ์ ชี้แจงอีกว่า ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ประกอบด้วย แนวคิดแบ่งแยกดินแดน การต่อต้านรัฐไทย การเมือง เศรษฐกิจ ยาเสพติด และธุรกิจผิดกฎหมาย โดยการแก้ปัญหาเบื้องต้นจะมีการปรับระบบลาดตระเวน แต่ยังยึดระบบเดิมที่เชื่อว่าดี และแก้ไขบางส่วนที่เห็นว่าควรปรับปรุง

“ทหารต้องไม่ขี้เกียจ ต้องเน้นการลาดตระเวนเดินเท้า ค่ำไหนนอนนั่น นอนใกล้ๆ หมู่บ้านของชาวบ้านเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัย ถ้าทหารไปอยู่ใกล้ๆ หมู่บ้าน คนร้ายที่ไหนจะกล้าไปอยู่ พร้อมสนับสนุนให้หมด ทั้งเงิน ทั้งอุปกรณ์ แต่ถ้าปล่อยให้มีเหตุเกิดขึ้นก็ต้องรับผิดชอบ ขีดเส้นเป็นรัศมี 2 กิโลฯ พื้นที่นี้ใครดูแลต้องเปลี่ยนทั้งหมด การปิดล้อม ตรวจค้น จะดำเนินการเท่าที่จำเป็น เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด” พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 20 (ตท.20) และนักเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า รุ่น 31 (จปร.31) รับราชการในพื้นที่ภาคใต้มาโดยตลอด เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับการกรมผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 และ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ในปี 2559 กระทั่งรับตำแหน่ง แม่ทัพน้อยภาคที่ 4 ก่อนจะได้รับตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 ต่อจาก พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ซึ่งเกษียณราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561

ด้าน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี กล่าวตอบว่า ศาสนาอิสลามพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของแม่ทัพภาคที่ 4 ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

“องค์กรทางศาสนาภายใต้การนำของจุฬาราชมนตรี พร้อมที่จะสนับสนุน แนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดของแม่ทัพภาคที่ 4 อย่างเต็มที่ เพราะเมื่อแม่ทัพภาคที่ 4 ออกมาประกาศอย่างชัดเจน สังคมจะเกิดการขับเคลื่อน และจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด” นายอาศิสกล่าว

ต่อประเด็นปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นางมารียา (สงวนนามสกุล) ชาวปัตตานี เปิดเผยจากประสบการณ์จริงว่า เด็กอายุน้อยๆ บางคนเริ่มสูบบุหรี่แล้ว และถูกใช้เป็นผู้ร่วมขบวนการในฐานะคนส่งยาเสพติด ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่คนในพื้นที่มีความกังวลมากที่สุด

“หลานอายุ 7 ปี สูบบุหรี่เป็นแล้ว ในชุมชนเขาเอาเด็กกลุ่มอายุเท่านี้มาป็นเด็กเดินยา แล้วจะไม่ให้เราคิดหนักได้ยังไง เมื่อยาเสพติดมันมีทุกบ้าน แม่บางคนไม่เคยว่าอะไรลูก ทั้งๆ ที่ลูกต้มน้ำกระท่อมขายในบ้าน ขายยาอยู่ในบ้าน ได้แต่ขอพรจากอัลลอฮ์ ให้ลูกหลานผ่านพ้นในสิ่งที่เลวร้ายนี้ เพราะติดยายิ่งกว่าผีเข้า สามารถฆ่าแม่ทั้งคนได้” นางมารียากล่าว

“ทุกคนต่างมีประโยชน์กับพวกยาเสพติด จะไม่ให้เยอะได้ยังไง จะขอบคุณ ถ้ามีคนจะมาแก้ปัญหาจริงๆ ไม่ได้แค่พูดเพื่อให้สวยหรู” นางมารียาระบุ