ทหาร-ประชาสังคมแดนใต้ ให้ประชาชนใจเย็น เหตุเศียรพระพุทธรูปถูกทำลาย

มารียัม อัฮหมัด
2020.07.27
ปัตตานี
200727-TH-deepsouth-temple-vandalized-1000.jpg เจ้าหน้าตรวจสอบพระพุทธรูปพระพุทธเจ้าองค์ดำ ภายในวัดวิมลพัฒนาราม ต.ตะลุปัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เสียหายทั้งเศียร วันที่ 27 กรกฎาคม 2563
เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์นี้ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 4 และภาคประชาสังคม กล่าวเตือน ประชาชนว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่า ใครเป็นผู้ทุบทำลายเศียรพระพุทธรูป พระพุทธเจ้าองค์ดำ ภายในวัดวิมลพัฒนาราม และให้ระวังการแสดงออกไม่เกิดการวิวาทะกันขึ้น

ทั้งนี้ ร.ต.อ.สมพล เพียรดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่า เมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบทุบเศียรพระพุทธรูป พระพุทธเจ้าองค์ดำ ภายในวัดวิมลพัฒนาราม หรือ วัดหัวเขา ต.ตะลุปัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนเสียหายทั้งเศียร นอกจากนี้ ยังพบว่า มีรูปปั้นอื่นที่อยู่บริเวณรอบพระพุทธรูปถูกทุบทำลายอีกหลายองค์ ตนและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ ได้มีประชาชนในพื้นที่บางราย แสดงความโกรธแค้นที่มีการลบหลู่ศาสนา ซึ่งวัดแห่งนี้ ยังเคยตกเป็นเป้าหมายการวางระเบิด จนทำให้มีพระภิกษุมรณภาพหนึ่งรูปและบาดเจ็บอีกหนึ่งรูป เมื่อปี 2558 มาก่อนแล้ว

ในเรื่องนี้ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ กล่าวว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนไปยังตัวคนร้าย แต่ไม่อยากให้สังคมด่วนสรุป เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้ง

“ตอนนี้ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่จะเชื่อมไปถึงคนร้ายพอสมควร แต่ยังไม่สามารถพูดได้ตอนนี้ ต้องรอเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานอีกหน่อย แต่สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดหลังเกิดเหตุ ทำให้เกิดวิวาทะ อยากฝากเตือนสติยังพี่น้องประชาชน ทุกคนต้องใช้สติ ในการแสดงออก เชื่อว่าอีกไม่นานสามารถสรุปได้ว่าใครทำ เกิดจากสาเหตุอะไร” พล.ต.ปราโมทย์ กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.สมพล เพียรดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบของกลางของคนร้าย

“ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด และบริเวณโดยรอบวัด เพื่อตรวจสอบว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นบุคคลจากภายนอกหรือไม่ พร้อมทั้งยังได้เข้าสอบถามเด็กวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงในการก่อเหตุในครั้งนี้ว่าเกิดจากเรื่องใดกันแน่” ร.ต.อ.สมพล กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ หญิงชาวบ้าน วัย 58 ปี ในพื้นที่เกิดเหตุ กล่าวโดยไม่ประสงค์ออกนามว่า “เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เรื่องแบบไม่น่าเกิดขึ้นเลย ขอประกาศว่าเราไม่ยอมให้ใครมาทำลายวัด คนที่ทำไม่มีหัวใจ โหดเกินมนุษย์”

จากเหตุดังกล่าว นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ใจเย็นลง

“อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงก่อน อย่ารีบฟันธงว่า การที่มีคนมาทุบองค์พระ วัดวิมลรัตนาราม คือ คนอีกศาสนา เพราะพื้นที่บ้านเรามีความขัดแย้ง พอต่างศาสนานิก ต่างศาสนาโดนทำลายวัตถุที่เราเคารพบูชา เราก็จะโยนบาปไปให้ต่างศาสนาทันที โดยไม่ได้ดูไม่ได้เห็นอะไร มันค่อนข้างที่จะอันตราย” นายรักชาติ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ด้าน นายมูฮัมหมัดมันโซ สาและ ชาวบ้านอำเภอสายบุรี กล่าวว่า เป็นข่าวที่น่ากลัวมากในรอบปี ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย ขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องพุทธจริง ๆ และขอประณามคนที่ทำ เชื่อว่าคนที่ทำต้องไม่มีศาสนา และไม่มีอุดมการณ์

ล่าสุด พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ได้ฝากให้คณะกรรมการที่ปรึกษาในเขตปัตตานีที่อยู่ใกล้ ช่วยลงไปหาทางคลี่คลาย ทำความความเข้าใจ และให้กำลังใจปลอบขวัญพระและชาวบ้านในบริเวณนั้นเป็นกรณีเร่งด่วนด้วย

ทั้งนี้ ในห้วงเวลากว่า 16 ปี ของความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ ได้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำร้ายพระสงฆ์ หรือวัดวาอาราม จนทำให้มีพระสงฆ์มรณภาพแล้ว 21 รูป และได้รับบาดเจ็บรวม 27 รูปแล้ว โดยเหตุก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2562 โดยคนร้ายกราดยิงพระ ในวัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ทำให้พระสงฆ์มรณภาพ 2 รูป ได้รับบาดเจ็บ 2 รูป

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง