แกนนำกลุ่มมูจาฮีดีนอิสลามปาตานีมอบตัว

วันอังคารนี้ นายนาซอรี เเซะเซ็ง หรือนายอาแว แคและ แกนนำกลุ่มมูจาฮิดีนอิสลามปาตานี (Patani Islamic Mujahideen Movement – GMIP) ที่ได้เข้ามอบตัวต่อ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เพราะมีความเบื่อหน่ายต่อขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่เริ่มขาดหลักการและอุดมการณ์ และมีความมั่นใจต่อโครงการพาคนกลับบ้านของกองทัพภาคที่ 4

พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมาที่กองร้อยทหารพราน 4403 ตำบลตะโละดือรามัน อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เพื่อรับมอบตัวนายอาแว แคและ และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งแม่ทัพภาคที่สี่กล่าวว่า นายอาแว ทำหน้าที่เป็นผู้คอยอำนวยความสะดวกและให้ที่พักพิงกับสมาชิกขบวนการ ในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่หลบไปอยู่ที่รัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเป็นผู้ประสานงานติดต่อในการทำบัตรประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านด้วย

“อาแว แคและ เป็นรองจาก เจ๊ะกูแม กูเต๊ะ เขาก็เป็นบุคคลที่เราตามหากันอยู่ในตอนนั้น เมื่อปี 2555 แต่ตอนนี้ กลุ่มพวกนี้สลายกันหมดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน กลุ่มเขาก็ได้ไปเตือนเด็กๆ พวกนี้แล้วว่าอย่าไปทำ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ที่นี่เด็กๆ พวกนี้ ก็ไม่ฟังเขา” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ด้านนายนาซอรี เเซะเซ็ง อายุ 52 ปี ซึ่งได้หลบหนีไปมาเลเซียเมื่อปี 2555 เพราะถูกหมายจับของทางการไทย กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีความเบื่อหน่ายต่อการต่อสู้ของเด็กรุ่นใหม่ที่ขาดอุดมการณ์ ที่มีการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และมั่นใจต่อกระบวนการรับมอบตัวผู้เห็นต่างจากรัฐให้กลับมาต่อสู้คดีและคืนชีวิตสู่สังคมปกติ

“การมอบตัวครั้งนี้ ผมบอกเจ๊ะกูแม กูเต๊ะคนเดียว ว่าจะออกมามอบตัว ส่วนลูกๆ บอกแค่ว่าจะออกไปซื้อของที่ตลาดเดี๋ยวกลับมา การออกมาครั้งนี้ เพราะมั่นใจในตัวแม่ทัพ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะช่วยได้ เพราะดูเพื่อนที่ออกมาเป็นตัวอย่าง แล้วแม่ทัพดูแลดี ก็เลยออกมา เพราะเบื่อหลายๆ อย่างที่ไม่จริงที่เกิดขึ้น” นายนาซอรี กล่าว

“ในปัจจุบัน เราไม่รู้เลยว่าหัวหน้าของเด็กๆ ที่ก่อเหตุอยู่เขาเป็นใคร แต่ตอนนี้ ก็มีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่ร่วมขบวนการในอดีต รอดูว่าเจ้าหน้าที่ช่วยจริงไม่ ถ้าทำจริงอย่างที่พูดพวกเขาก็จะกลับมา” นายนาซอรี กล่าวเพิ่มเติม

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามท่านหนึ่ง กล่าวว่า นาซอรี ถูกหมายจับแปดหมาย โดยมีข้อหาต่างๆ เช่น ข้อหาต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ ปล้นทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยบางข้อหานั้น อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือหมดอายุความไปแล้ว

“เขามีหมายจับ ป.วิอาญา รวม 8 หมาย หลังจากนี้ ก็จะดำเนินงานตามกฏหมาย แต่ไม่ได้มีการกักตัวเขา จะปล่อยกลับบ้านปกติ ซึ่งถ้ามีอะไรก็จะเชิญตัวเข้ามาให้ข้อมูล” เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายเดียวกันกล่าว

นายนาซอรี ซึ่งมีมีบุตร 5 คน ปัจจุบัน อาศัยอยู่ทางฝั่งมาเลเซีย กล่าวอีกว่า ตนเองเข้าร่วมขบวนการพูโลมาก่อน ต่อมาก็มาร่วมเป็นมูจาฮีดีน โดยยอมรับว่าเคยร่วมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จริง แต่ไม่เคยกระทำผิดในข้อหาที่ถูกหมายจับ ซึ่งตนได้หนีออกจากพื้นที่อำเภอบาเจาะ นราธิวาส ในปี 2555

“มีหมายจับของ สภ.บาเจาะ นราธิวาส ยืนยันว่าผมไม่ได้ทำ เจ้าหน้าที่เขาเห็นว่าเป็นคนบาเจาะ เวลามีอะไรเขาก็จะกล่าวโทษใส่มา ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำ” นายนาซอรี กล่าว

พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ทางการไทยจะให้ความช่วยเหลือนายนาซอรี ในการต่อสู้คดี

“วันนี้ เขาก็ยอมรับในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำไป ส่วนเรื่องกฎหมายก็ว่ากันไปตามกระบวนการ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ว่ากันไป แต่เราจะช่วยถึงที่สุด ในรูปคดี หรือที่มาเป็นพยาน หรืออาจมีเหตุบรรเทาโทษ มีอีกหลายอย่างที่ดีจะช่วยในเมื่อเขาช่วยเรา เราก็จะช่วยเขา” พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว

“เขาก็บอกว่าเขาจะไปชวนเพื่อนๆ ลูกน้องเขาที่อยู่ฝั่งโน้นกลับมาอีก ถามว่ามีอีกเยอะไหม เขาบอกว่ามีอีกเยอะ ตอนนี้กำลังดูว่าทางนี้ทำจริงไหม ถ้าทำจริง เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลไทยดูแลดี เขาก็พร้อมที่จะเข้ามาอีกหลายสิบ หลายร้อยคน" พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม