เจ้าหน้าที่สังหารผู้ก่อเหตุรุนแรงใต้สองศพ จับเป็นได้สี่คน

ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบพิเศษ จังหวัดชายแดนภาคใต้  พร้อมด้วยกำลังพลในพื้นที่ ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายสามจุด ในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดสงขลา สามารถวิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุรุนแรงได้สองราย และจับเป็นได้อีกสี่ราย

โดยในจังหวัดปัตตานี ในขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ ในบ้านตันหยงเปาว์ ม. 4 ต. ท่ากำชำ อ. หนองจิก ได้มีคนร้ายสองคน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนมีการยิงปะทะกันประมาณ 5 นาที กลุ่มคนร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนกระโดดน้ำหลบหนีไป แต่ภายหลังทราบว่า ได้เสียชีวิตทั้งสองราย เมื่อมีผู้พบศพที่บริเวณบ้านแคนา ต. บางเขา อ. หนองจิก จ. ปัตตานี

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ตาย คือ นาย มูฮัมหมัดเปาซี สาเมาะ และ นาย มูฮัมหมัด ซิตีเลาะ

จากการตรวจสอบภายในบ้าน พบอาวุธปืน M-16 จำนวน 3 กระบอก ประกอบด้วย  1. ปลย. M-16 A-1 หมายเลข 9294913 พบว่า เป็นของหน่วยทักษิณพัฒนาที่ 12 ซึ่งถูกแย่งชิง เมื่อ 28 เม.ย 2546 จากการโจมตีฐาน  2. ปลย. M-16 ตัดสั้น พานท้ายสไลด์ หมายเลขถูกขูดลบ คงเหลือเลขสี่ตัวท้าย 4503 ไม่สามารถยืนยันที่มาได้  3. ปลย. M-16 ตัดสั้น หมายเลขถูกขูดลบทั้งหมด และลูกระเบิดชนิดขว้าง 2 ลูก สภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้ง ยังสามารถควบคุมนาย สะมาแอ สาและ อายุ 51 ปี ได้อีก 1 ราย

ส่วนการตรวจค้นที่บริเวณบ้านเลขที่ 40 บ้านควนหรัน ม. 2 ต. เปียน อ. สะบ้าย้อย จ. สงขลา สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย จำนวน 1 คน คือ นายอับดุลเลาะ เจะโวะ และที่บริเวณบ้านเลขที่ 5 ใน ม. 2 เช่นกัน เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัย ได้อีกจำนวน 2 คน ทราบชื่อ คือ นายรอซาลี หลำโซะ และนายซอบลี หลำโซะ พร้อมกับได้ยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กนพ 223 ปัตตานี ไว้เพื่อตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งสี่ราย จากการปิดล้อมตรวจค้น ทั้ง 3 จุด ที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพาน 41 ยะลา เพื่อสอบสวนและสืบสวนต่อไป

ทหารพรานถูกยิงเสียชีวิตหนึ่งนายในวันอาทิตย์

ในวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. 2558 พ.ต.อ. ประวิทย์ ช่อเส้ง ผกก. สภ. เจาะไอร้อง จ. นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต บนถนนในหมู่บ้านลูโบะเยาะ หมู่ 7 ต. จวบ อ. เจาะไอร้อง จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ริมถนน ทราบชื่อคือ อส.ทพ.ไชยสิทธิ์ มาลัย อายุ 30 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้าจนพรุนไปทั้งร่าง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงลาพัก ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามลำพังกลับจากทำสวน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะตามไล่หลังมา เมื่อสบโอกาส คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนอาก้าออกมายิงใส่ผู้ตายจนรถเสียหลักล้มลงเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป สำหรับผู้เสียชีวิต มีภรรยาเป็นคนในพื้นที่ และรับศาสนาอิสลามได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ

รองแม่ทัพภาคสี่ปรับแผนการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย เพื่อนำความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐคืนมา

ทางด้านพลโทกิตติ  อินทรสร รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.ค.2558  ทาง กอ.รมน. ภาค 4 สน. จะมีการประชุมปรับแผนการปฏิบัติงานในห้วงหลังเดือนรอมฎอน โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมบัญชีเป้าหมายต่าง ๆ ในพื้นที่ไว้ ขอให้นำข้อมูลมาประชุมจัดทำแผนการปฏิบัติการ เพื่อนำความเชื่อมั่นในความปลอดภัยคืนมา หลังจากผู้ก่อเหตุรุนแรงได้โหมยกระดับการปฏิบัติการ ในช่วงท้ายของเดือนรอมฎอน

“การสร้างความเชื่อมั่นในอำนาจของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของมาตรการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ในช่วงหลังของเดือนรอมฎอนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาก ก็เป็นเหตุให้ความเชื่อมั่นไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกำลังพลเราเอง ในส่วนของกำลังประชาชน หรือมวลชนต่างๆ อาจจะลดน้อยลง จึงได้ให้หน่วยไปทบทวนมาตรการต่างๆ ลงไปพบปะพูดคุยกำลังประชาชน กับมวลชนต่างๆ เพื่อให้ความเชื่อมั่นในอำนาจของรัฐกลับคืนมา” พลโทกิตติ กล่าว