การกลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม อ้างว่าตนสามารถแฮ็กข้อมูลการสื่อสารแห่งประเทศไทย

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2015.10.23
TH-internet-1000 พนักงานออฟฟิสขณะดูเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ วันที่ 29 มกราคม 2552
เอเอฟพี

การที่กลุ่มแฮกเกอร์นิรนามที่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Anonymous ได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีเวบไซต์ของ บริษัท การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CAT Telecom ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2558 นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงการต่อต้านโครงการซิงเกิ้ลเกตเวย์ของรัฐบาล จากข้อมูลที่เผยแพร่บนเวบไซต์ www.blognone.com

เวบไซต์ blognone.com ได้ตีพิมพ์ข่าวสารในวันศุกร์นี้ว่า ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @F5CyberArmy ได้รีทวีตข้อมูลที่คาดว่าเอามาจากกลุ่ม Anonymous แสดงให้เห็นว่า ทางกลุ่มสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้าของ CAT Telecom ที่กระทรวงการคลังถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มได้

“ผู้ใช้บัญชี @F5CyberArmy ได้เพิ่งโพสต์ภาพยืนยันว่า ได้เข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้าของ CAT Telecom มากกว่าหนึ่งพันรายชื่อ โดยในข้อมูลที่เปิดเผยมาทางกลุ่มแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงทั้งบัญชี และข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าได้จริง แต่ปิดบังข้อมูลสำคัญไว้ เพื่อย้ำเจตนารมณ์ที่จะเปิดโปงว่าระบบความปลอดภัยของ CAT Telecom นั้นยังมีช่องโหว่ที่สามารถเจาะเข้าไปได้อยู่”

อย่างไรก็ตาม เวบไซต์ blognone.com ยังไม่สามารถยืนยันได้ในทันทีว่า ข้อมูลดังกล่าวนั้น มีความถูกต้องทั้งหมด

“อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามข้อมูลต่อไปซักระยะ เนื่องจากข้อมูลที่ปล่อยออกมานั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นบัญชีลูกค้าของ CAT Telecom จริงหรือไม่ (เนื่องจากทางแฮกเกอร์ไม่ได้ปล่อยตัว dump ออกมา) และไม่สามารถยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับที่กลุ่ม Anonymous ประกาศออกมาหรือไม่เช่นกัน” ข้อความบนเวบไซต์ blognone.com แสดงไว้

ในเรื่องนี้ ในเวลาต่อมา เมื่อ 23 ตุลาคม 2558 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศก์และการสื่อสาร หรือ กระทรวงไอซีทีได้ออกมาปฏิเสธว่า การกล่าวอ้างดังกล่าว ไม่เป็นความจริง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทียืนยันว่า ข้อมูลที่กลุ่มแฮกเกอร์โพสต์เป็นข้อมูลปลอม หน่วยงานรัฐวางระบบป้องกัน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ตามรายงานจาก ไทยพีบีเอส

เรื่องซิงเกิ้ลเกตเวย์กลายเป็นข่าวใหญ่ เมื่อชาวอินเตอร์เน็ตได้รับรู้ข้อมูลจากเฟซบุ๊ค “หยุดดัดจริตประเทศไทย”

ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ เฟซบุ๊ค “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ได้เผยแพร่ข้อมูลข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ถึงจุดเริ่มต้นในการจัดตั้ง Single Gateway โดยอ้างเหตุผลถึงการใช้อินเตอร์เน็ตของเยาวชนไปในทางที่ไม่เหมาะสม จึงให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

และยังมีการระบุให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ​และการสื่อสาร หรือ ไอซีที ร่วมกับ กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม โดยให้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากมีความจำเป็นต้องออกกฎหมายเพิ่มเติม ก็ให้เร่งดำเนินการ

โดยในต้นเดือนตุลาคมนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว "เป็นเพียงการศึกษา และหาแนวทางแก้ไขในด้านความมั่นคง การค้า การลงทุน ข้อมูลข่าวสาร ที่ทุกประเทศก็ทำเช่นเดียวกัน และขณะนี้ ยังไม่ได้สั่งให้ดำเนินการ ซึ่งแนวทางดังกล่าว ถือเป็นการศึกษาที่มีอยู่ทางเดียวในตอนนี้ เพื่อให้การค้าการลงทุนปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลกำลังเฝ้าระวังอยู่”

พลเอกประยุทธ์ ยังได้กล่าวย้ำในเวลาต่อ ๆ มาว่า ตนยังไม่ได้สั่งการให้มีการใช้ระบบซิงเกิ้ลเกตเวย์แต่อย่างใด และในเรื่องนี้ไม่ได้มีเป้าประสงค์ไปที่การละเมิดกฎหมาย หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน

หลังจากที่มีข่าวในเรื่องนี้ออกมา ชาวอินเตอร์เน็ตต่างแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากว่าการใช้อินเตอร์เน็ตซิงเกิ้ลเกตเวย์ จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับหน่วยงานของรัฐบาล เช่น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สามารถติดตามการใช้อินเตอร์เน็ตของประชาชนได้สะดวกเกินไป นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวว่า จะทำให้ระบบการส่งผ่านข้อมูลช้าลงอีกด้วย

นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงกลาโหม ได้เร่งรัดการก่อตั้งกองทัพไซเบอร์ โดยให้เหตุเรื่องความมั่นคงของประเทศ

พลเอกปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวในวันพุธ (21ต.ค. 2558) ว่า กระทรวงกลาโหมมี “ศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ (ศมบ.)” และ มีนโยบายให้ทุกเหล่าทัพ มีศูนย์ Cyber เพื่อรับมือภัยคุกคามนอกประเทศ ติดตามสถานการณ์ ทั้งนอกประเทศ ในอาเซียน และในประเทศ

“ส่วนของกลาโหม ก็มี โดยเฉพาะ ศมบ. นี้ ก็ครอบคลุมเรื่องนึ้ด้วย เพราะมีกระทรวง ICT มาร่วมด้วย ส่วนของกลาโหม อยู่ที่ย่านถนนศรีสมาน ต้องทำอย่างจริงจัง ให้เป็นรูปธรรม ให้เป็นไปตามนโยบายนายกฯ” พลเอกปรีชา กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง