เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าว แสดงทรัพย์สินที่ยึดจาก 3 ผู้ต้องหา คดีหมิ่นเบื้องสูง
2015.10.28
วันพุธที่ 28 ตุลาคม 2558 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี 112 และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และทีมงานชุดสอบสวน ได้นำของกลาง ในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หรือ มาตรา 112 ที่มี นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีตสารวัตร กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.
โดยเจ้าหน้าที่อายัดของกลางดังกล่าวได้จากบ้านพัก คอนโดมิเนียม ของผู้ต้องหา ประกอบด้วย รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในราชการ 11 คัน รถยนต์ที่ตรวจพบการกระทำผิด 10 คัน รถยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากสถานทูตแคนาดา 3 คัน และรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ตรวจอายัดไว้เพื่อทำการตรวจสอบอีกจำนวน 38 คัน รวมถึงของกลางอื่นๆ เช่น กีตาร์ไฟฟ้า นาฬิกาหรู กระเป๋ายี่ห้อดัง วิทยุสื่อสาร อาวุธปืน 20 กระบอก ตุ๊กตาปั้น พระเครื่อง และอัญมณี จำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีเนื่องจากมีการร้องเรียนว่า ทั้งหมดมีพฤติกรรมแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เรียกรับผลประโยชน์จากการทำเข็มกลัดในกิจกรรม Bike For Mom และ Bike For Dad ซึ่งมีคดีที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 13 คดี เช่น ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง รีดเอาทรัพย์ เรียกรับสินบนหรือประโยชน์โดยมิชอบ
สำหรับของกลางที่มีการนำมาแถลงข่าว ส่วนหนึ่งเป็นของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เช่น พระเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ยึดมาจากที่พักของ พ.ต.ต.ปรากรม
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคดี กล่าวว่า “คดีดังกล่าวมีทั้งสิ้น 13 คดี นั้น มีผู้ต้องหา 3 คนคือ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ร่วมกันดูหมิ่นอาฆาตมาดร้าย ด้วยการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง เพื่อขอรับการสนับสนุนในการจัดทำสิ่งของ และเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนต่าง ๆ รวมทั้ง แอบอ้างเป็นผู้แทนพระองค์นำพระไปมอบให้บริษัทเอกชน”
โดย พ.ต.ต. ปรากรม กับพวก มีข้อหาเกี่ยวกับการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ทหารพบอาวุธ วิทยุ รถยนต์ ผิดกฎหมาย อีกทั้งร่วมกับ บริษัท สามารถเทเลคอม กับพวก ตั้งสถานีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ยังแอบอ้างเบื้องสูง ขอสนับสนุนหมายเลขโทรศัพท์เลขสวยจาก กสทช.
พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะรองหัวหน้าชุดสืบสวน เปิดเผยว่า นอกจากนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีไหวตัวทัน มีการทำลายหลักฐาน และนำทรัพย์สินไปซ่อน นอกจากนี้ พ.ต.ต.ปรากรม เป็นหัวหน้าชุด ของตำรวจทั้ง 8 นาย สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการก่อนหน้านี้ หากพบว่าผิดจะต้องดำเนินคดี หากไม่ผิด ก็ต้องปล่อยไป ส่วนพฤติการณ์ของหมอหยอง พบว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยง ซุกซ่อน อำพราง ทำลายทรัพย์สิน และมีการแปรสภาพ ไปยังญาติใกล้ชิด ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ
หนึ่งในผู้ต้องหา เสียชีวิตในห้องขัง
ส่วน พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ที่ กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์เมื่อ 24 ต.ค. 2558 ยืนยันว่า เสียชีวิตแล้ว ไทยพีบีเอส ได้รายงานลำดับเหตุการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า คืนวันที่ 23 ต.ค. 2558 แถลงการณ์ระบุว่า พ.ต.ต.ปรากรมได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือ และเสียชีวิต ที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา หากเมื่อวันที่ 25 ต.ค. สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุว่ายังไม่มีการส่งศพมาชันสูตร
โดย เมื่อวานนี้ที่ 27 ต.ค. 2558 ญาติของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา เดินทางมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ดำเนินการชันสูตร โดยไม่ได้ส่งศพไปสถาบันนิติเวช เจ้าหน้าที่เผย ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต