เจ้าหน้าที่จับตัวโรฮิงญาที่หลบหนีจากศูนย์ช่วยเหลือ ในอำเภอรัตภูมิจำนวนสิบเอ็ดคน กลับมาได้หกคน

ในวันจันทร์นี้ (8 มิถุนายน 2558) เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่หนีออกไปจากสถานที่คุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ ในตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เมื่อตอนกลางดึกของวันเสาร์ที่ 6 มิ.ย. 2558 ได้ 6 คน และยังคงติดตามตัวผู้ที่หลบหนีอีก 5 คน

โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดติดตามไล่ล่า สามารถควบคุมชาวโรฮิงญาได้ จำนวน 6 คน ขณะซ่อนตัวอยู่ในป่าพื้นที่ หมู่ 11 บ้านนิคม ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลับไปควบคุมที่ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.สงขลา

ตำบลกำแพงเพชร เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแก้ว ที่ทอดตัวจากอำเภอรัตภูมิ ลงไปทางทิศใต้จนถึงชายแดนมาเลเซีย ที่ปาดังเบซาร์และด่านจังโหลน ในอำเภอสะเดา

เจ้าหน้าที่ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ชาวโรฮิงญามุสลิมที่หลบหนีออกจากที่กักกัน ต้องการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นคนมุสลิมเช่นกัน

ตามคำบอกเล่าของบุคคลที่มีส่วนในการนำพาชาวโรฮิงญาเดินทางผ่านประเทศไทยไปยังมาเลเซีย ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา ส่วนหนึ่งจะมีญาติที่หลบหนีเข้าประเทศมาเลเซีย คอยเป็นผู้ช่วยเหลือและจ่ายค่านำพา หากไม่สามารถจ่ายค่านำพาได้ก็จะต้องถูกกักขังในค่ายผู้เข้ามืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน และเกิดการเสียชีวิตนับร้อยศพตามที่เป็นข่าวมาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม

พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ถึงปัจจุบัน มีชาวโรฮิงญาตกค้างอยู่ในประเทศไทย 779 คน โดยบางส่วนเป็นผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายและบางส่วนถือเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์