ศาลจังหวัดปัตตานี พิพากษาตัดสินประหารชีวิตสมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรงใต้

โดย นาซือเราะ
2015.08.13
TH-death-sentence-620 เจ้าหน้าที่เรือนจำเตรียมความพร้อมหนึ่งในนักโทษไทย (ถูกปิดตา) เพื่อนำไปประหารชีวิต ที่เรือนจำบางขวาง จังหวัดนนทบุรี เมื่อ 12 ธันวาคม 2546
เอเอฟพี

ในวันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2558 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเหตุการณ์ที่สำคัญในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 12 สิงหาคม โดยมีสาระสำคัญในเรื่องการตัดสินประหารชีวิตผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ก่อคดีฆ่าคนตายในปี 2552 และเรื่องต่างๆ

พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวในการแถลงข่าวที่ห้องแถลงข่าวศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน. ภาคสี่ ส่วนหน้าว่า ในวันที่ 10 ส.ค. 2558 ศาลจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งพิพากษาตัดสินประหารชีวิต นายอับดุลเลาะ หวันหีม จากคดีร่วมก่อเหตุกราดยิงร้านอาหารอีสานใต้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อ 26 พ.ย. 2552 ในพื้นที่ ต. นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นายอับดุลเลาะ หวันหีม เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา รวม 3 หมายจับ

ส่วนภาพรวมสถานการณ์ในห้วงเวลาดังกล่าว ได้เกิดเหตุการณ์รวม 7 เหตุการณ์ แยกเป็นคดีความมั่นคง 3 เหตุการณ์ เรื่องส่วนตัว 1 เหตุการณ์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ 3 เหตุการณ์ มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และได้รับบาดเจ็บ 14 ราย

“กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงสร้างสถานการณ์ความรุนแรงด้วยการลอบยิง และลอบวางระเบิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และพี่น้องประชาชน ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวชี้นำทางความคิด บิดเบือน ข้อเท็จจริงขององค์กรเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือในระบบอำนาจรัฐ และสร้างความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นในพื้นที่” พันเอกปราโมทย์ กล่าว

ส่วนความคืบหน้าคดีคนร้ายเข้าโจมตีชุดคุ้มครองตำบลบาโร๊ะ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เหตุเกิด เมื่อ 31 ก.ค. 2558 ที่ผ่านมานั้น ผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนที่ใช้ก่อเหตุพบว่า ถูกยิงมาจากอาวุธปืน จำนวน 23 กระบอก ประกอบด้วยปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 406 ปลอก ใช้ยิงมาจากอาวุธปืน 21 กระบอก และ ปลอกกระสุน ขนาด 7.62 มม. 79 ปลอก ใช้ยิงมาจากอาวุธปืน อาก้า 47 จำนวน 2 กระบอก ในจำนวนนี้มี 10 กระบอก ที่ตรวจพบความเชื่อมโยงกับคดีความมั่นคงในพื้นที่รวม 43 คดี

นอกจากนั้น ยังตรวจพบความเชื่อมโยงของดีเอ็นเอที่พบในที่เกิดเหตุ ตรงกับคดีคนร้ายลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลอำเภอยะหา เมื่อ 11 ก.พ. 2556 อีกด้วย และมีพยานที่ยังสามารถจดจำใบหน้าของคนร้าย 3 คนได้ ทางหน่วยจะเร่งติดตามจับกุมมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมาย

ศอ.บต. ร่วมกับ กอ.รมน. ภาคสี่ สนับสนุนพี่น้องชาวมุสลิมเดินทางไปทำพิธีฮัจย์

ทางด้านนายสัมพันธ์ มูซอดี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้การสนับสนุนพี่น้องประชาชนตามโครงการส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2558 จำนวน 203 คน

“กำหนดเดินทางจากสนามบินหาดใหญ่-มะดีนะห์ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2558 และเที่ยวกลับจากเจดดาห์-สนามบินหาดใหญ่ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ปีนี้ มีผู้แสวงบุญ 6,915 คน มีกำหนดเดินทางจากสนามบินนราธิวาส–มะดีนะห์ ในระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2558 วันละ 2 เที่ยว และเที่ยวกลับ 1-4 ตุลาคม 2558 วันละ 1 เที่ยวบิน ในส่วนของการเดินทางจากสนามบินที่กรุงเทพ-มะดีนะห์ ในระหว่างวันที่ 18-23 สิงหาคม 2558 วันละ 2 เที่ยวบิน และเที่ยวกลับ 4-15 ตุลาคม วันละ 1 เที่ยวบิน  ศอ.บต. หวังให้นำคุณค่าฮัจย์ มาแก้ไขปัญหาและสร้างสังคมสันติสุข”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง