ศาลสั่งกองทัพบก-สำนักนายกฯ จ่ายค่าเยียวยาเพิ่มแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ
2020.09.17
ปัตตานี
ในวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2663 ศาลจังหวัดปัตตานี สั่งกองทัพบก และสำนักนายกรัฐมนตรีจ่ายสินไหมเพิ่มเติมกว่าห้าล้านบาท ให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บพลเรือน 5 ราย ที่ถูกทหารพรานใช้อาวุธปืนสงครามเข้ายิงใส่ เพราะคิดว่าเป็นฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ ในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อต้นปี พ.ศ. 2555
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555 โดยเริ่มจากคนร้ายใช้เครื่องยิงระเบิด เอ็ม.79 ถล่มฐานปฏิบัติการทหารพรานที่ 4302 ในหมู่ที่ 3 ตำบลปุโละปุโย ในช่วงค่ำของวัน จนมีทหารพรานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหนึ่งนาย จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดสกัด และออกติดตามคนร้าย ตามเส้นทางหมายเลข 418 ยะลา-ปัตตานี พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 3105 ปัตตานี ของผู้เสียหายขับขึ้นมาจากเส้นทางใกล้เคียง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่ามีการยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ จึงมีการยิงตอบโต้กันขึ้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในภายหลังทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถของชาวบ้านที่เดินทางออกจากหมู่บ้านกาหยี หมู่ที่ 1 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อไปละหมาดศพ (การละหมาดขอพรให้ผู้เสียชีวิต) ที่บ้านทุ่งโพธิ์ หมู่ที่ 4 ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยออกมาได้เพียง 500 เมตร ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาเสียก่อน
ในวันนี้ นายสากีมัน เบญจเดชา ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ศาลจังหวัดปัตตานี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.519/2558 โดยสั่งให้กองทัพบก และสำนักนายกรัฐมนตรี จ่ายสินไหมเพิ่มเติมแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย เป็นจำนวนเงินเพิ่มเติมอีกสูงสุดประมาณรายละ 1,000,000 บาท
ทั้งนี้ ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีข้อเสนอของคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในสมัยนั้น ได้ให้เงินเยียวยาผู้บาดเจ็บ รายละ 5-7 แสนบาท ตามอาการ ซึ่งทางผู้ได้รับบาดเจ็บเห็นว่า ไม่เพียงพอ จึงได้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
สำหรับผู้เสียชีวิต 4 รายนั้น ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จ่ายค่าเยียวยา รายละ 7 ล้านบาท ไปในวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ
นางรอพีฮะ ดอเลาะ มารดาของนายซอบรี บือราเฮง และลูกสาวของนายมะแอ ดอเลาะ ทั้งสองเป็นผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า ตนเองดีใจที่ศาลได้ให้ความเมตตา
“รู้สึกดีใจ เราต่อสู้มาพอที่จะเห็นความเป็นธรรมบ้าง จากที่ตอนแรกผู้บาดเจ็บได้รับเงินเยียวยาสี่แสนห้า วันนี้ศาลสั่งจ่ายเพิ่ม” นางรอพีฮะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ในเรื่องการฟ้องร้องนั้น นายยา ดือราแม หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บกับพวกรวม 5 คน ได้เป็นโจทก์ร่วมฟ้องกองทัพบก และสำนักนายกรัฐมนตรี เริ่มดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดปัตตานี เมื่อปี 2558 โดยตามคำพิพากษานั้น ได้เห็นว่า อาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนที่พบในรถยนต์กระบะของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุนั้น มิได้เป็นของชาวบ้านที่อาศัยมาในรถยนต์กระบะของโจทก์ที่หนึ่งแต่ประการใด
ส่วนที่ว่า มีการใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่จำนวนสองนัด ตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง จึงเป็นเรื่องที่ขัดต่อเหตุและผล ไม่อาจรับฟังให้เป็นยุติได้ การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารจึงเป็นการกระทำในลักษณะละเมิดต่อโจทก์ทั้งห้า จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้จำเลยทั้งชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทก์ ซึ่งเป็นคดีชาวบ้าน 5 คน ดังกล่าว
สำหรับรายชื่อผู้ได้บาดเจ็บ 5 ราย คือ 1. นายมะแอ ดอเลาะ 2. นายซอบรี บือราเฮง 3. นายมะลูดิง แวกาจิ 4. นายยา ดือราแม และ 5. นายอับดุลเลาะ (สงวนนามสกุล)
ส่วนผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ 1. นายสาหะ สาแม อายุ 67 ปี 2. นายอิสมัน ดือราแม อายุ 55 ปี 3. นายรอปา บือราเฮง อายุ 18 ปี 4. นายหามะ สะนิ อายุ 56 ปี