นักศึกษามุสลิมไทยหวังกลับไปเรียนที่เยเมน หากสถานการณ์สงบในปีนี้
2015.07.28
นักศึกษาไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนใต้ที่เคยไปเรียนระดับอุดมศึกษาในประเทศเยเมน แต่ต้องอพยพหนีสถานการณ์ไม่สงบภายในประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ศกนี้ ยังมีความประสงค์ที่จะกลับไปเรียนต่อ หากสถานการณ์ดีขึ้นภายในปีนี้
โดยในวันนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้จัดให้มีการพบปะกับนักศึกษาไทย จำนวน 67 คน ที่โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท ปัตตานี ในอำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดย ผศ. ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ และนายกสมาคมศิษย์เก่าต่างประเทศ ได้ร่วมแนะแนวทางการศึกษาต่อและให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ
ในวันนี้ที่ 28 ก.ค. 2558 มีนักศึกษาเข้าร่วมจำนวน 67 คน ส่วนใหญ่มีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับไปศึกษาต่อในประเทศเยเมน หากสถานการณ์ดีขึ้น เพราะต้องการความต่อเนื่องของหลักสูตรในสถาบันการศึกษาของประเทศเยเมน
นายซ่าอา ทับทิมใหม่ นักศึกษาจากคณะนิติศาสตร์อิสลามและสากล มหาวิทยาลัยอัล-อัรกอฟ ประธานนักศึกษาไทยในประเทศเยเมน กล่าวว่าตนยังมีความประสงค์ที่จะกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศเยเมน หากว่าความขัดแย้งทางการเมืองที่นั่นสงบลงภายในสิ้นปีนี้
“ถ้าสถานการณ์ในประเทศเยเมนดีขึ้นภายในปีนี้ ผมอยากกลับไปเรียนต่อจนจบ เพราะอยู่ปี 4 ใกล้จะจบแล้ว ถ้าหากไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ผมก็อยากเรียนมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ หลักสูตรของภาษาอาหรับให้จบ เพราะผมคิดว่าภาษาอาหรับมีความจำเป็นมากในยุคปัจจุบัน” นายซ่าอา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ประเทศเยเมน เผชิญกับความวุ่นวายกลางเมือง ในตอนปลายเดือนมกราคม 2558 เมื่อกองกำลังกบฏฮูติ (Houti) ได้ทำการรัฐประหารและจับกุมตัวประธานาธิบดี เอเบดแรบโบแมนซอร์ฮาดี้ และนายกรัฐมนตรีคาเลด บาลา เป็นเหตุให้สถานทูตต่างประเทศหลายประเทศ รวมทั้งสถานทูตสหรัฐอเมริกา ในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ต้องปิดลง จากนั้นยังมีการใช้กำลังสู้รบต่อมา
ผศ. ปิยะ ได้กล่าวว่า “หน่วยงานต่างๆ พร้อมที่จะรับฟังความประสงค์ในการขอรับความช่วยเหลือของนักศึกษาแต่ละราย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมพบปะในวันนี้ จะทำให้ทุกฝ่ายได้รับข้อสรุปด้านการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลของนักศึกษาในประเด็นต่างๆ และเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักศึกษาไทยทุกคนด้วยว่า รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ”
นายมูฮัมหมัด เซ็งเละ นักศึกษาศาสตร์ทางด้านอิสลาม สถาบัน Ribat Fatah ประเทศเยเมน กล่าวว่า ตนเองเคยเรียนที่ประเทศอียิปต์ แต่ได้ย้ายไปเรียนต่อที่เยเมน เนื่องจากได้พบปะคนเยเมนในประเทศอียิปต์ และตนรู้สึกชอบพอในอุปนิสัย
“ก่อนหน้านี้ผมเรียนที่ประเทศอิยิปต์ แล้วได้รู้จักกับคนประเทศเยเมน ผมติดใจในนิสัยความน่ารักของผู้คน จึงทำให้ตัดสินใจย้ายไปเรียนที่ประเทศเยเมน ผมอยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปศึกษาต่อให้กับนักศึกษา” นายมูฮัมหมัด กล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิยะ ได้กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า ศอ.บต.ให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นต้นทุนทางสังคมที่มีคุณค่า การที่ได้มีโอกาสไปศึกษาต่อในต่างประเทศนั้น นอกจากจะได้รับความรู้ในการศึกษาแล้ว ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ การช่วยเหลือตนเองในต่างแดน และการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในวัฒนธรรมที่หลากหลายและแตกต่าง