ททท. นราธิวาส ตั้งเป้าหมายการท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนใต้ เติบโตสิบเปอร์เซ็นต์ในปี 2558
2015.08.06
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (6 ส.ค. 2558) ว่า สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้วางเป้าหมายเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวให้เติบโตขั้น 10 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ จากยอดนักท่องเที่ยว 1.3 ล้านกว่าคน ในปีที่ผ่านมา
นายอะหมาน หมัดอาดัม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า แม้ว่าพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เป็นที่น่าประทับใจของผู้มาเยือนอยู่หลายแห่ง แต่ต้องพบกับอุปสรรคที่สำคัญ คือ ความไม่สงบในพื้นที่ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเสี่ยงเดินทางมาท่องเที่ยว
“ปัญหาอุปสรรคหลัก ของการท่องเที่ยวในพื้นที่ คือปัญหาความไม่สงบ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส” นายอะหมาน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 24.77 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับประเทศถึง 986,718 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมากที่สุด จำนวน 4.62 ล้านคน ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียจำนวน 2.46 ล้านคน และรัสเซียรั้งอับดับสามที่ 1.6 ล้านคน
ในจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ คิดเป็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ ที่มาเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1,300,000 กว่าคน สร้างรายได้ให้แก่ภูมิภาคถึง 5,000 กว่าล้านบาทในแต่ละปี
“และในปีนี้ เราคาดหวังที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากกว่าปีที่ผ่านมาสิบเปอร์เซ็นต์” นายอะหมานกล่าว
นายอะหมานกล่าวต่อไปว่า เป็นที่น่าแปลกใจว่าสถิตินักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างประเทศกลับมีมากกว่าคนไทยที่มาจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่เดินทางผ่านชายแดนมาทางด้าน อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส และอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
สำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม จีน-พุทธ-อิสลาม เช่น เทศกาลงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวในจังหวัดปัตตานี งานเทศกาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ ในอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส งานฉลองเทศกาลรายอ งานเมาลิดกลาง งานแข่งเรือกอและ ที่จังหวัดนราธิวาส การเยี่ยมชมมัสยิดวาดิลฮูเซ็น ที่รู้จักในนามว่า มัสยิด 300 ปี ในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ที่สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2168 ปัจจุบัน มีอายุถึง 390 ปี
นอกจากนั้น สามจังหวัดชายแดนใต้ มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น หาดบูดี ในจังหวัดปัตตานี ส่วนในจังหวัดนราธิวาส มีหาดนราทัศน์ และอุทยานแห่งชาติฮาลาบาลา ที่เป็นแหล่งอาศัยของนกเงือกถึง 7 ชนิด จากจำนวน 13 ชนิด เป็นต้น
ในส่วนการวางแผนการท่องเที่ยว ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส ได้วางเป้าหมายในการขยายผลส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยจะจัดแพ็คเกจการท่องเที่ยว ที่ทาง ททท. เป็นผู้ดำเนินโครงการเอง และรวมถึงการให้ความร่วมมือกับบริษัท–เอกชนต่างๆ ที่จะพานักท่องเที่ยวมาเที่ยวในจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา นอกจากนั้น จะมีการออกบู๊ธประชาสัมพันธ์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายอะหมานกล่าวว่า นอกจาก ททท. แล้ว ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือด้วย และประชาชนในพื้นที่ต้องเป็นมิตรที่ดีต่อนักท่องเที่ยว เพื่อการขยายผลเศรษฐกิจการท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงจะเกิดความความมั่นคงต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ไฟใต้ ตนจึงขอเชิญชวนทุกท่านมาเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีคุณค่าสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ด้านนายสมพร พุ่มดอกไม้ ชาวกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในฐานะตนเคยมาท่องเที่ยวนราธิวาส และยะลาแล้วหลายครั้ง ในครั้งแรกที่ได้ฟังข่าวเหตุการณ์รุนแรง ตนรู้สึกว่าน่ากลัว ไม่น่ามาสัมผัส แต่เมื่อได้มาเยือนกลับพบว่า ปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะจุดเท่านั้น ไม่สามารถจะเหมารวมเอาว่า การเดินทางในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้นอันตรายไปในทุกพื้นที่ ดังที่หลายๆ คนเข้าใจ
“ผมมาเที่ยวยังติดใจ รอบหน้าจะพาครอบครัวมาด้วย” นายสมพรกล่าวแก่เบนาร์นิวส์
“แหล่งท่องเที่ยวนราธิวาส หลายแห่ง สวยงามและน่าสนใจ และนราธิวาส มีความพร้อมมาก มีทะเล มีป่าเขา มีน้ำตก ยะลา ปัตตานีก็เช่นกัน อีกทั้งมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเป็นอัตลักษณ์ของคนในพื้นที่ ป่าอุดมสมบูรณ์ รวมถึงวัฒนธรรมจีน มลายู ไทยพุทธ ที่หลากหลาย” นายสมพรกล่าวเพิ่มเติม
นายสมพรกล่าวว่า “โดยส่วนตัวแล้วตนเชื่อว่าแหล่งท่องเที่ยวสามจังหวัดชายแดนใต้นั้น น่าประทับใจมาก อยากให้ทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดีขึ้น โดยในเดือนธันวาคม เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเปิดเป็นทางการ จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี จะเป็นจุดสำคัญต่อการขยายผลเศรษฐกิจการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน จะเข้ามาเที่ยวมากขึ้น รายได้จะเข้าสู่ชุมชนและประเทศไทย”