กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ เกรงพยานคดีค้ามนุษย์ไม่กล้าให้การ หลังหัวหน้าทีมสอบสวนลาออก

ในวันจันทร์ (9 พ.ย. 2558) นี้ นางอังคณา นีละไพจิตร มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้กล่าวแสดงความห่วงใยในการดำเนินคดีการค้ามนุษย์ ที่พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ หัวหน้าทีมสอบสวน ต้องลาออกเพราะแรงกดดันจากฝ่ายผู้ต้องหา และเกรงว่าพยานอาจจะไม่กล้ามาให้การต่อศาล

“ช่วงต้น ดูเหมือนรัฐบาลจะจริงจังกับคดีค้ามนุษย์มาก ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่กลัวอิทธิพล แต่ตอนนี้ เหมือนเกิดอะไรผิดปกติขึ้น ผู้รับผิดชอบคดีถูกสั่งย้าย  ผบ.ตร. บอกว่าเป็นคำสั่งปกติ แต่มันไม่ปกติที่คดียังไม่จบ น่าเป็นห่วง” นางอังคณา กล่าวในการสัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์

“เขาจะกล้ามาเป็นพยานอีกไหม ในอดีต มีหลายคดีเป็นแบบนี้ พยานไม่กล้าเบิกความหรือพยานกลับคำในชั้นศาล คดีในภาคใต้ก็มีคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร พยานถูกคุกคาม คือ การคุ้มครองพยานในประเทศไทยมีปัญหา ทำให้คดีไม่ได้รับความเป็นธรรม” นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติม

นางอังคณายังกล่าวว่า “ถ้าจะพูดถึงปัญหากระบวนการยุติธรรม ถ้าคดีที่มีผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้มีอิทธิพล พยานหรือผู้เกี่ยวข้องจะถูกคุกคาม หรือพยานหลักฐานจะถูกทำให้หายสาบสูญไป”

สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้น พนักงานสอบสวนและสำนักงานอัยการนาทวี ได้เสร็จสิ้นกับการจัดทำสำนวนคดีการค้ามนุษย์ เป็นคดีอาญาที่ 148/2558 ของ สภ. ปาดังเบซาร์ และอีกคดีหนึ่งเป็นคดีฟอกเงิน เป็นคดีอาญาที่ 231/2558 ของ สภ. ปาดังเบซาร์ โดยสำนวนทั้งหมดได้ถูกส่งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดที่กรุงเทพแล้วในประมาณกลางเดือนตุลาคม โดยมีการฟ้องร้องผู้ต้องหาชุดแรกจำนวน 72 แล้ว เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ศกนี้

ในคดีแรก มีผู้ต้องหา 155 คน เสียชีวิตแล้ว 2 คน คือ นางจันทา ปั้งซวด และ พ.อ. กัณตภล เจริญพร ศาลได้อนุมัติหมายจับ 153 หมาย อยู่ภายใต้การควบคุมตัว 91 คน แยกเป็นถูกจับกุม 55 คน มอบตัว 33 คน ถูกอายัดตัว 3 คน และยังคงเหลือหลบหนีอีก 62 ราย

ส่วนในคดีฟอกเงิน  มีผู้ต้องหาจำนวน 81 คน เสียชีวิตแล้ว 2 คน ได้มีการออกหมายจับ 79 คน อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่แล้ว 40 คน และหลบหนีอยู่ 39 คน

หัวหน้าทีมสอบสวนลาออก

ในวันเสาร์ที่ผ่านมา พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ได้กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการเพราะว่า ตนเองได้ถูกย้ายลงไปประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาต (ศชต.) ซึ่งอาจจะไม่ปลอดภัยกัยตนเอง เพราะก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มผู้ต้องหาได้โทรศัพท์คุกคามชีวิตมาก่อนหน้านี้

“ความไม่ปลอดภัยที่กลัว ไม่ได้เป็นเรื่องของความไม่สงบหรือโจรผู้ร้ายในพื้นที่ ตรงนี้ผมไม่ได้กลัวอยู่แล้ว แต่ที่กลัวคือความไม่ปลอดภัยที่เป็นผลพวงมาจากการทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา โดยเฉพาะผู้ต้องหาในคดีหลายคนที่เป็นผู้มีอิทธิพลและมีพรรคพวกอยู่ในพื้นที่ เกรงว่าจะมีอันตรายจากกลุ่มคนพวกนี้” พล.ต.ต. ปวีณกล่าว

พล.ต.ต. ปวีณ กล่าวว่า ใบลาออกของตนน่าจะมีผลในวันที่ 6 เดือนธันวาคม หลังยื่นใบลาออกสามสิบวัน ในระหว่างนี้ ตนจะยังทำงานร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดในการดำเนินคดีการค้ามนุษย์อยู่

คำชี้แจงจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ในวันจันทร์นี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามระเบียบแล้วหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการโยกย้าย สามารถมายื่นหนังสือร้องทุกข์ได้ที่กองร้องทุกข์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาว่าถูกกลั่นแกล้งจริงหรือไม่ โดยการร้องเรียนนั้นส่วนใหญ่จะได้รับความเป็นธรรม

แต่กรณีของพล.ต.ต. ปวีณ ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ความต้องการของ พล.ต.ต. ปวีณ ซึ่งตัวเองจะไม่มีการยับยั้งการลาออก และจะไม่มีการเรียก พล.ต.ต. ปวีณ มาพูดคุย พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีการรับใบสั่งจากทางการเมืองหรือการทหารให้สั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ

“เท่าที่ทราบสาเหตุการลาออกของ พล.ต.ต. ปวีณ เป็นเพราะสาเหตุส่วนตัว ที่จะกลับไปดูแลบิดา มารดา และครอบครัว ส่วนที่ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า ถูกข่มขู่ โดยมีการมุ่งร้ายไปที่ครอบครัวนั้น ตามหลัก พล.ต.ต.ปวีณ สามารถร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคุ้มกันได้” พล.ต.อ. จักรทิพย์กล่าวในการแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ย้อนคดีค้ามนุษย์ และการค้ามนุษย์ในปัจจุบัน

เมื่อย้อนไปช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ปีนี้ ได้เกิดคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาบนเทือกเขาแก้ว บ้านตะโละ ม. 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ. สงขลา หลังจากมีการค้นพบหลุมฝังศพชาวโรฮิงญาที่ถูกฝังไว้ จากนั้น ได้มีการแต่งตั้ง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการ

ในส่วนของคดีค้ามนุษย์ซึ่งเป็นคดีหลักนั้น นอกจาก พลโทมนัส คงแป้น แล้ว กลุ่มบุคคลที่ถูกออกหมายจับชุดสุดท้าย ก่อนพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งให้อัยการ เป็นทหารชั้นสัญญาบัตร 4 นาย คือ 1. พ.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ มากสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.สตูล 2. ร.อ.วิสูตร บุนนาค สังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ชุมพร (เข้ามอบตัวแล้ว)  3. ร.อ.สันทัด เพชรน้อย สังกัด กอ.รมน.จ.ชุมพร และ 4. นาวาโทกัมปนาท สังข์ทองจีน สังกัดทัพเรือภาคที่ 3