ประชาชนแดนใต้กว่าสองหมื่นคน ร่วมฟังการบรรยายจากนักวิชาการอิสลามจากเยเมน

แก้ไขข้อมูล 11:30 a.m. ET on 2015-11-05

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต. เขาตูม อ. ยะรัง จ. ปัตตานี พลโท วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ พร้อมด้วยรองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัด ศอ.บต. ให้การต้อนรับ ฮาบีบ มูหัมหมัด อับดุลเลาะห์ อินดูรูส (Habib Muhammad bin Abdullah Alaydrus) จากประเทศเยเมน และคณะ ผู้มาในฐานะตัวแทนของ ฮาบีบ อุมัร บิน ฮาฟิส (ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลของศาสดามูฮัมหมัด ศาสดาคนที่ 25 ของศาสนาอิสลาม และได้กำหนดที่จะเดินทางมาในตอนแรก ) ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทย พร้อมร่วมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงาน การแก้ปัญหา และการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า

สำหรับ ฮาบีบ อุมัร บิน ฮาฟิส (Habib Umar Bin Hafiz) ผู้ถูกอ้างอิงว่า สืบเชื้อสายมาจากตระกูลของศาสดามูฮัมหมัด ศาสดาคนที่ 25 ของศาสนาอิสลามนั้น ได้มีกำหนดการที่จะเดินทางมาเยือนไทย ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย. 2558 นี้ หากไม่สามารถมาตามกำหนดการได้ และส่งผู้แทนตนมาแทน ซึ่ง ฮาบีบ มูฮัมหมัด อับดุลเลาะห์ อินดูรูส ผู้แทนและคณะ จะใช้มัรกัส มาดีนาตุนนูร (ศูนย์กลางของกลุ่มเผยแพร่ศาสนา) ต. ตาแซะ อ. เมือง จ. ยะลา เป็นที่พักตลอดสามวันในพื้นที่ รวมทั้งมีการบรรยายหลักการใช้ชีวิตตามแบบฉบับอิสลาม ให้กับประชาชนในพื้นที่ มีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นคน ภายใต้การอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยจากกองอำนวยการความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า

พลโท วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าว "ขอบคุณท่านฮาบีบฯ ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้ ทำให้ท่านฮาบีบฯ ได้เห็นข้อเท็จจริง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ โดยทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มุ่งแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการยุติความรุนแรง ควบคู่กับการแก้ปัญหาด้านยาเสพติด โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ใช้แนวทางสันติวิธี ยึดหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งได้เร่งรัดการแก้ปัญหา ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้มิติของความหลากหลาย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น"

ฮาบีบ มูฮัมหมัด อับดุลเลาะห์ อินดูรูส กล่าวว่า "รู้สึกดีใจที่ได้เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะในครั้งนี้ จากการที่ได้มารับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนรู้สึกพอใจ ต่อแนวทางดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการดำเนินการตามหลักของศาสนาอิสลามนั้น คือการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมี ความสุข และขอขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ได้ให้การต้อนรับที่อบอุ่นซึ่งถือเป็นความดีงาม"

การเดินทางมาครั้งนี้เป็นความตั้งใจที่จะนำหลักการ แนวทาง คำสั่งสอนอันบริสุทธิ์ของอิสลามมาบอกกล่าวแก่พี่น้องมุสลิม และรู้สึกดีใจที่พบว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีอูลามะ ที่เป็นผู้รู้หลายท่านได้ช่วยกันเผยแพร่หลักคำสอนทางศาสนาที่เป็นสายกลาง ซึ่งหลักการของอิสลามนั้นหมายถึงสันติสุข ที่เกิดจากการอยู่ร่วมในสังคมแห่งความหลากหลาย ด้วยการให้เกียรติ เคารพซึ่งกันและกัน ตามที่ศาสดาได้ปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่าง และอิสลามจะให้ความสำคัญต่อทุกศาสนา เพราะแต่ละศาสนาต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ การนำสังคมไปสู่สันติ”

นายอิสมะแอ ยูโซ๊ะ ชาวบ้าน อ. เมือง จ. ปัตตานี กล่าวว่า “จุดที่ท่านไปบรรยาย จะมีพี่น้องในสามจังหวัดเข้าร่วมรับฟังหลายหมื่นคน  รู้สึกเหมือนมีพลังในการต่อสู้ ได้แนวคิดที่ถูกต้อง และตรงต่อการดำเนินชีวิตตามหลักในศาสนาอิสลาม ตามแบบฉบับของศาสดา”

นางฮาบีบะ สาแม ชาวบ้าน จ. ยะลา กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติมาก ดีใจมาก เพราะเป็นห่วงคนในพื้นที่ รู้สึกว่า บ้านเราภาคใต้ มีบุญมาก และจากการเข้ารับฟังการบรรยายจากท่านทำให้รู้สึกเข้าใจวิถีชีวิตตามแบบอิสลาม ตามแบบนบีมูฮัมหมัดมากขึ้น”

แก้ไขรายงานก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่า ผู้เดินทางมาเยือนและบรรยาย เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลของศาสดามูฮัมหมัด