ผบ.ทบ.แจงพลทหารคชาเจ็บเพราะวิวาท ไม่ได้ถูกซ่อม

ในวันพฤหัสบดีนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า การบาดเจ็บของพลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดกองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 พัน 3 รอ.) จังหวัดลพบุรี เกิดจากการทะเลาะวิวาทระหว่างทหารด้วยกัน ไม่ใช่การถูกธำรงวินัยตามที่ครอบครัวได้ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน

พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขี้นที่ ร.31 พัน 3 รอ. แล้ว โดยจะมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และผู้กระทำผิดจะได้รับโทษแน่นอน

“ได้รับรายงานแล้ว ไม่ใช่การซ่อม ช่วงนี้ไม่มีการซ่อม เป็นการวิวาทกันระหว่างพลทหารแล้วก็บาดเจ็บ อยู่ที่โรงพยาบาล เท่าที่ผมทราบในเบื้องต้น ก็เป็นไปได้ที่คนหนุ่ม ๆ ที่อยู่ด้วยกัน จะเป็นความเบาะแว้งกัน มีการชกต่อยกัน เป็นเรื่องเฉพาะตัว” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ทางหน่วยเขาดำเนินการชี้แจงแก่ครอบครัวแล้ว ซึ่งทางกองทัพบกมีนโยบายห้ามมีการซ่อม หรือการทำร้ายร่างกาย หากเกิดขึ้น ผู้กระทำผิดต้องถูกลงโทษทางวินัยหรือเป็นคดีอาญา

การเปิดเผยของ พล.อ.เฉลิมชัยครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ บอย กรุงเก่า โพสต์ภาพถ่ายผู้ชายติดเครื่องช่วยหายใจ นอนบนเตียงในโรงพยาบาล ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า “นี่คือสิ่ง(ที่)ทหารไทยทำ... ซ้อมคนจนเกือบตาย …หน้าไหนรับผิดชอบ ไม่เจอกับญาติพี่น้อง… จะไปรู้สึกอะไร ขอให้หายไว ๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้ ตื่นขึ้นมาหาพี่หาน้อง เด้อทหารเข้ม (พลทหารคชา)” ข้อความระบุ

ซึ่งหลังจากนั้น ครอบครัวของพลทหารคชาได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 21 สิงหาคม 2561 มีเพื่อนของพลทหารคชาโทรศัพท์ไปแจ้งครอบครัวว่า พลทหารคชาได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล ซึ่งเมื่อพยายามติดต่อไปสอบถามข้อมูลจากต้นสังกัดของพลทหารคชา เจ้าหน้าที่ทหารได้ปฎิเสธในเบื้องต้น

ต่อมาในช่วงดึกของวันเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่ทหารโทรศัพท์มาแจ้งครอบครัวว่า พลทหารคชาเข้าโรงพยาบาลจากอาการช็อค ยังไม่ทราบสาเหตุ และในคืนนั้นมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแจ้งครอบครัวว่า พลทหารคชาหยุดหายใจ ครอบครัวจึงตัดสินใจเดินทางจากจังหวัดชลบุรี เพื่อไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลที่จังหวัดลพบุรี และขอร้องให้แพทย์ช่วยปั๊มหัวใจพลทหารคชาเพื่อช่วยชีวิต

เมื่อวานนี้ ครอบครัวระบุว่า มีนายทหารยศนายพันคนหนึ่ง เดินทางมาเยี่ยมพลทหารคชาที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งชี้แจงว่า อาการบาดเจ็บของพลทหารคชาเกิดจากการที่ทหารรุ่นพี่สั่งธำรงวินัยหรือที่เรียกว่าการซ่อม แต่ขอร้องให้ครอบครัวไม่นำเรื่องนี้ไปเปิดเผยต่อสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม ครอบครัวเห็นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้สังคมควรรับรู้ จึงแจ้งข่าวไปยังสำนักข่าวต่าง ๆ

ต่อมาในวันพฤหัสบดี น.ส.กาญจนาภรณ์ สีหะวงค์ น้าสาวของพลทหารคชา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ครอบครัวรู้สึกว่าการกระทำของรุ่นพี่ทหารต่อพลทหารคชารุนแรงเกินกว่าเหตุ

“รู้ว่าโดนซ้อม เราก็ทำใจไม่ได้ น้องที่เป็นทหารด้วยกันไปเห็นน้อง (พลทหารคชา) ก็ไม่หายใจแล้ว แต่คนที่ซ้อมก็ไม่ไปช่วย เราคิดว่ามันเกินเหตุ เพื่อนไปปั้ม (หัวใจ) ขึ้นมา ถึงเอาไปส่งโรงพยาบาล มันเกินไปหรือเปล่า ที่ถึงขั้นต้องทำอะไรรุนแรงขนาดนี้” น.ส.กาญจนาภรณ์กล่าว

“มันเหมือนกับว่ามันทรงตัว คุณหมอเขาบอกคุณแม่ว่า น้องฟื้นมา น้องจะไม่เหมือนเดิมนะ เพราะว่าน้องหยุดหายใจไปหลายรอบ แล้วก็มีอาการไตวาย อาการก็ไม่ดีขึ้น ไม่มีสติ ไม่อะไรสักอย่าง...” น.ส.กาญจนาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติม

ล่าสุด ครอบครัวของพลทหารคชาได้เดินทางไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพลทหารสามราย (ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อและนามสกุล) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายพลทหารคชาแล้ว และทหารทั้งสามรายดังกล่าวได้เดินทางไปพบสมาชิกครอบครัว เพื่อขอขมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่มีการชี้แจงใด ๆ เพิ่มเติม

ทหารกับการเสียชีวิตในค่ายทหาร

แม้จะมีการปฎิเสธข่าวการซ้อมทรมานทหารมาตลอด แต่เฉพาะในช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา มีข่าวทหารเสียชีวิตระหว่างการฝึกอย่างต่อเนื่อง โดยมีอย่างน้อย 7 ราย ที่เป็นข่าวในหน้าสื่อ ซึ่งรายล่าสุดคือ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย อายุ 18 ปี นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตวันที่ 17 ต.ค. 2560 ระหว่างการฝึกซ้อมในโรงเรียนเตรียมทหาร ด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งครอบครัวได้นำร่างไปผ่าพิสูจน์ และพบว่าอวัยวะภายในบางส่วนถูกนำออกจากร่างโดยไม่ได้แจ้งต่อครอบครัว เบื้องต้น ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง