ไทย-มาเลย์ เจรจาหลังต่างฝ่ายต่างจับกุมตัวพลเมืองของแต่ละฝ่าย
2018.08.20
ปัตตานี
ในวันจันทร์นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมกับกงสุลมาเลเซีย และเลขานุการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในจังหวัดสตูล เพื่อหาทางออกให้กับข้อพิพาทที่เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมเรือประมงมาเลเซียพร้อมด้วยลูกเรือ 4 ราย ในขณะที่มาเลเซียควบคุมตัวตำรวจสามนายและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกหนึ่งรายไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็น “โจรสลัด”
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองสตูล 3 นาย พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 1 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัว หลังเข้าจับกุมเรือประมงขนาดเล็กสัญชาติมาเลเซีย ที่เชื่อว่าได้ทำประมงล้ำน่านน้ำไทยใกล้เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะลังกาวีของมาเลเซีย และตำบลตันหยงโป อ.เมือง สตูล แต่ตำรวจมาเลเซีย เชื่อว่าตำรวจไทยปล้นเรือประมงมาเลเซีย เพราะไม่ได้ใช้เรือทางการและไม่ได้แสดงตนให้ทราบ
นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า ทางการไทยกำลังดำเนินการเพื่อขอตัวเจ้าหน้าที่ไทย 4 ราย กลับประเทศแล้ว
“ติดอยู่โน่น 4 คน เบื้องต้นให้ท่านผู้การสตูล ทำหนังสือขอตัวกลับมาแล้ว แต่ก็ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 7 ราย รวม 4 คนที่อยู่ที่โน่น เพื่อสอบสวน” นายภัทรพนธ์กล่าว
“ได้มีการพูดคุยเพื่อช่วยคนของเราให้กลับมาโดยเร็วแล้ว ซึ่งการพูดคุยก็เป็นไปด้วยดี และวันนี้จะมีเจ้าหน้าที่ชุดเกี่ยวข้องไปดูจุดเกิดเหตุอีกครั้งว่าจุดเกิดเหตุตรงบริเวณไหน ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นการเข้าใจผิดกัน” นายภัทรพนธ์กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งผู้ว่าราชการ และพล.ต.ต.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ไม่ได้ตอบคำถามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยดำเนินการกับชาวประมงมาเลเซียที่เชื่อว่ารุกล้ำน่านน้ำไทยเพื่อหาปลาอย่างไรบ้าง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียกล่าวว่า ทางการไทยจะส่งตัวชาวประมงมาเลเซียคืนโดยไว
เมื่อวันอาทิตย์นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองสตูล พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วย เข้าได้จับกุมเรือสัญชาติมาเลเซีย ทะเบียน KHS4461 ซึ่งเชื่อว่าได้ล้ำน่านน้ำไทยเพื่อเข้ามาทำการประมง แต่ระหว่างการจับกุม เรือลำดังกล่าวพยายามแล่นหนี และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้บุกขึ้นปล้นเรือ จนเกิดสถานการณ์ชุลมุน
เจ้าหน้าที่มาเลเซีย ได้ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ไทย 4 นาย ประกอบด้วย ด.ต.สัญชัย สลีมีน, ด.ต.เอกณัฐ โพธิปกเกษม, ด.ต.คณิต นัธที และนายอภิสิทธิ์ ยันยูโซ๊ะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล ไปยังเกาะลังกาวี ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ควบคุมตัวลูกเรือชาวมาเลเซีย 4 ราย มาที่ สภ.สตูล ประกอบด้วย นายฮัมซา บิน ยาคอบ, นายมาลิก บิน มัด, นายอัลดุล รามาน บิน โอมาร์ และนายโมฮัมหมัด ราฟิ บิน ยูนุส
ในวันนี้ ผู้กับกำการโมฮัด อิคบัล อิบราฮิม สถานีตำรวจในรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ชายไทยทั้งสี่ที่ถูกจับพร้อมอาวุธปืนนั้น ไม่ได้ใช้เรือที่ระบุว่าเป็นของทางราชการไทย ทั้งสี่ไม่ได้แต่งตัวกายด้วยเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย
“เมื่อถูกควบคุมตัว โจรสลัด ไม่ได้ระบุว่าว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย เช่น ไม่ได้สวมเสื้อกั๊กแบบเจ้าหน้าที่” ผกก.โมฮัด อิคบัล อิบราฮิม เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ในวันนี้
ในระหว่างมีการประชุมในวันนี้ นายรอชาด สุวาหลำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ตันหยงโป พร้อมด้วยลูกบ้านกว่า 30 คน ได้รวมตัวกันที่ใต้ศาลากลางจังหวัดสตูล เพื่อยืนยันต่อผู้ว่าราชการจังหวัดว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไทยเป็นไปอย่างบริสุทธ์ เนื่องจากพบว่าชาวประมงมาเลเซียได้ทำการลุกล้ำน่านน้ำไทย มาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือน จนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่
นายแสลมัน เส็นดากัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม. 3 ที่มาชุมนุมด้วย กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเรือมาเลเซียทำประมงล่วงล้ำน่านน้ำ จึงประสานให้ตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยเข้าไปดูยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นเกาะ ในพื้นที่ ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล โดยใช้เรือประมงของผู้ใหญ่บ้านและเรือของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านออกไปปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบดูที่เกิดเหตุทันที
“เมื่อเห็นการกระทำของเรือประมงดังกล่าวเป็นความผิดซึ่งหน้า ตำรวจจึงได้แสดงตัวและขอเข้าจับกุมและระหว่างนั้นลูกเรือประมงมาเลเซียได้โทรแจ้งให้ทางการมาเลเซียเข้ามาโดยอ้างว่าถูกปล้น ทั้งที่เราแจ้งแล้วว่าประมงลำนี้เข้ามาทำผิดในน่านน้ำได้ และเป็นตำรวจทางการไทย” นายแสลมัน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
“แต่ก็ยังมีการพยายามพุ่งชนเรือไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จนมีการจับกุมตำรวจไทย พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสิ่งที่ได้รับคือให้ผู้ใหญ่บ้านยื่นใบลาออกอยากขอให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมด้วย” นายแสลมัน กล่าว
พล.ต.ต.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า หากเจ้าหน้าที่ไทยทั้ง 7 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการจับเรือประมงมาเลเซียครั้งนี้มีความผิด ก็จะดำเนินการลงโทษตามระเบียบ
“ดำเนินการเป็นสองส่วน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจกับฝ่ายปกครอง เราทำหนังสือขอตัว เขาก็จะเร่งรัดดำเนินการให้ เจ้าหน้าที่ของเรา เราก็ให้ออกจากราชการ ให้ตรวจสอบความจริง ถ้ามีความผิดก็ให้ลงโทษไปตามความผิด” พล.ต.ต.ศุภวัฒน์กล่าว