น้ำท่วมเชียงราย-เชียงใหม่ หนักสุดรอบ 30 ปี ตายอย่างน้อย 4 สูญหาย 4
2024.09.11
กรุงเทพฯ
สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังสูญหายอีก 4 ราย ปัจจุบัน หน่วยงานรัฐบาลระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือ ชาวเชียงรายระบุว่า เป็นน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบอย่างน้อย 30 ปี
“ที่ผ่านมาไม่เคยท่วมขนาดนี้ ร้านค้า สำนักงานที่อยู่ใกล้ ๆ ด่านแม่สาย น้ำท่วมมิดของเสียหายหมด ขนของไม่ทัน เพราะชะล่าใจ ไม่คิดว่าจะท่วม ไม่เคยท่วมมาก่อน ครั้งนี้ ถือว่าน้ำสูงกว่า ท่วมเป็นวงกว้างมากกว่า น้ำท่วมใหญ่ปี 2535 ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอขนาดนี้” นายภาคภูมิ(สงวนนามสกุล) พนักงานบริษัท อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย กล่าว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม-11 กันยายน 2567 โดยเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อ.แม่สาย อ.ขุนตาล และ อ.พญาเม็งราย รวม 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน เบื้องต้น มีประชาชนได้รับผลกระทบ 1,276 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
“วันนี้ ผมก็ไม่ได้ไปทำงาน เพราะเป็นผู้ประสบภัย ลูกค้าก็เป็นผู้ประสบภัยด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ ปภ. กู้ภัย ก็ทำงานกันเต็มที่ มีพวกคนดัง อินฟลูเอนเซอร์ ลงมาในพื้นที่เร็วมาก ๆ ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้อย่างดี ก็หวังว่า น้ำจะลงเร็ว ๆ นี้” นายภาคภูมิ กล่าวกับเบนาร์นิวส์
ปภ. จังหวัดเชียงราย ระบุว่า พื้นที่ อ.แม่สาย เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีบ้านเรือนประชาชน และร้านค้าเสียหายกว่า 175 แห่ง มีสะพานและถนน ถูกน้ำพัดทำลาย ดินถล่ม ตัดขาดการสัญจรไปมาของประชาชน
ด้าน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุดินถล่มหลังจากน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ บ.ดอนแหลม อ.แม่อาย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ยังสูญหายอีก 4 ราย โดยในจำนวนผู้ที่ยังสูญหายนั้นมีเด็กอายุ 5 เดือน และ 4 ปี รวมอยู่ด้วย
ปภ. ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม - 11 กันยายน 2567 มีน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง และใต้ รวม 120 อำเภอ 535 ตำบล 2,844 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 83,501 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 30 ราย
ปัจจุบัน มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และรถผลิตน้ำดื่ม และมีการเตรียมสนับสนุนถุงยังชีพแก่ประชาชนรวมแล้วกว่า 10,000 ชุดด้วย
มวลน้ำจากแม่น้ำสายล้นตลิ่งเอ่อท่วมย่านการค้าชายแดนตลาดอำเภอแม่สาย สูงกว่า 1 เมตร ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย วันที่ 10 กันยายน (สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่)
ด้าน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กำลังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด
“พี่น้องประชาชนในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ กำลังประสบภัยจากน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนที่มีจำนวนมาก ขณะนี้ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้วนะคะ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังค่ะ” น.ส. แพทองธาร ระบุผ่านเอ็กซ์
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะประชุมร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือที่อาคารรัฐสภาในวันพฤหัสบดีนี้ เมื่อ น.ส. แพทองธาร แถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้วโดยจะนับเป็นภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่า สธ. ได้บูรณาการความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการดูแลด้านสาธารณสุข
“พร้อมช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยให้ดำเนินการตามมาตรการหลักอย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด รวมถึงเน้นย้ำให้เตรียมพร้อมยาและเวชภัณฑ์ให้เพียงพอ หากขาดเหลือให้รีบประสานมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจะได้ช่วยสนับสนุนส่งยาและเวชภัณฑ์ไปอย่างเร่งด่วน” นายสมศักดิ์ กล่าว
กรมชลประทาน ระบุว่า เขื่อนและประตูระบายน้ำยังคงอัตราระบายน้ำที่ 1,449 ลบ.ม./วินาที โดยขอให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา งดปลูกข้าวนาปี เพื่อลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหาย โดยระบุว่า พื้นที่ที่มีปริมาณน้ำสะสมสูงที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมง ประกอบด้วย 1. อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 222.0 มม. 2. อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ปริมาณฝน 221.5 มม. และ 3. อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปริมาณฝน 220.8 มม.
“ทราบว่าขณะนี้ในพื้นที่อำเภอแม่สาย มีสถานการณ์น้ำที่ค่อนข้างรุนแรง มีกรณีประชาชนติดบนหลังคาเจ้าหน้าที่ใช้เรือเข้าช่วยเหลือลำบาก ผมขอให้ส่วนงานของมหาดไทย เช่น ปภ. ที่มีอุปกรณ์เครื่องจักรที่เอื้ออำนวยพิจารณาเข้าช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเต็มที่” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
รุจน์ ชื่นบาน ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน