'รุ้ง ปนัสยา' แกนนำราษฎรถูกตำรวจ ปอท. จับฐานยุยงปลุกปั่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้จับกุมตัว นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร ในความผิดตามฐานยุยงปลุกปั่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในวันพุธนี้ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และศาลอาญาให้ประกันตัวในเวลาต่อมา

นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวระบุว่า น.ส. ปนัสยา ถูกกล่าวหาว่าเป็นแอดมินเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยเพจนี้ได้มีการโพสต์เชิญชวนคนไปร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบ เพื่อขับไล่รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ผู้ต้องหายืนยันว่า หนึ่ง เขาไม่ใช่แอดมินเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และสอง การทำกิจกรรมเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเราไปดูประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ก็ได้เขียนไว้ชัดว่าถ้าได้กระทำไปโดยสุจริตหรือตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ผิด ม.116 ก็ให้การปฏิเสธไปแล้ว” นาย นรเศรษฐ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ น.ส. ปนัสยา ซึ่งยังศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. ควบคุมตัวที่บ้านและนำตัวไปสอบสวนต่อที่ บก.ปอท. โดยได้แสดงหมายจับของศาลอาญาที่ 1506/2564 ตามข้อกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 (3) ว่า ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติดชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

นอกจากนั้น ยังถูกตั้งข้อหาว่าละเมิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 (3) จากการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

นายนรเศรษฐ ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจ ปอท. ได้จับกุมตัว น.ส. นิรากร อ่อนขาว ซึ่งเป็นจำเลยที่สองในคดีเดียวกัน และได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วน น.ส. ปนัสยา ถือเป็นจำเลยที่หนึ่ง ได้ถูกจับกุมตัวในวันนี้

ต่อมา พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขัง น.ส. ปนัสยา ต่อศาลอาญาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งศาลอาญารับคำร้องฝากขัง และมีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวตามที่ผู้ต้องหายื่นคำร้อง ในวงเงิน 35,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข

หลังจากได้รับการประกันตัว น.ส. ปนัสยา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ที่โดนจับวันนี้ไม่เคยได้รับหมายเรียกมาก่อน เป็นการกลั่นแกล้งของเจ้าหน้าที่รัฐ

“การตั้งข้อกล่าวหาที่มันสูงเกินจริง มันมองเป็นเจตนาอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากการกลั่นแกล้งประชาชน หรือมีเจตนาที่อยากจะขังพวกเรา” น.ส. ปนัสยา กล่าว

“มันควรออกหมายเรียกก่อนจะออกหมายจับ พวกเราทุกคนที่เป็นนักเคลื่อนไหวเยาวชนตอนนี้ มันไม่เคยมีใครเลยที่มีพฤติกรรมหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือจะไปทำอันตรายต่อสังคม เพราะฉะนั้นเราคิดว่าไม่ควรออกหมายจับ หมายเรียกออกมาเถอะ ไปทุกครั้ง” น.ส.ปนัสยา กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน พล.ต.ต. อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปอท. ให้สัมภาษณ์กับเบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กลั่นแกล้ง

“เราทำตามข้อกฎหมาย มันมีข้อกฎหมาย ป.วิอาญา ที่ศาลไม่ต้องออกหมายเรียกก็ได้ สามารถออกหมายจับได้เลยในคดีที่ข้อหามีอัตราโทษสูง และศาลก็เป็นคนออกให้ กระบวนการของเราก็เป็นเพียงชั้นต้นเท่านั้น และศาลก็เมตตาให้ประกันไปแล้ว” พล.ต.ต. อนันต์ กล่าว

สำหรับอัตราโทษการกระทำผิดตามมาตรา 14 (3) ของ พรบ.คอมพิวเตอร์ นั้น มีโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ส่วนความผิดในการละเมิดมาตรา 116 (3) ตามประมวลกฎหมายอาญานั้น ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี

ต่อเหตุการณ์นี้ นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลมีเจตนาดำเนินคดีเพื่อปิดปาก น.ส. ปนัสยา

“กรณีนี้ถือว่าเป็นการ SLAPP (strategic lawsuits against public participation) หรือ คดีฟ้องปิดปากโดยรัฐอย่างชัดเจน ซึ่งต่อไปอาจจะทำให้กรณีที่มีคนทำเพจ หรือคนที่เห็นต่างจากรัฐถูกดำเนินคดี เพียงเพราะแสดงความคิดเห็น ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น” นางอังคณากล่าว