ศิลปินกัมพูชาเรียกร้องจับกุม 2 คนร้ายต่างชาติ หลังถูกมีดแทง-น้ำกรดราด
2022.12.19
นางสาว นี ซรัยโรธ ศิลปินชาวกัมพูชาวัย 30 ปี ที่พำนักอยู่ในประเทศไทย เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศเร่งจับกุมคนร้ายที่ทำร้ายร่างกายเธอด้วยมีด ค้อน และน้ำกรดเมื่อเดือนที่แล้ว หลังคดีดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมไทย นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้นำตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเชื่อว่าเป็นชาวโปแลนด์สองคน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ของคนร้ายที่ยังลอยนวลอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าทั้งสองคนกำลังหลบหนีไปยังฟิลิปปินส์
นี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเรดิโอฟรีเอเชียว่า ตนเองถูกทำร้ายที่เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีหญิงชาวไทยคนหนึ่งจ้างวานให้เธอไปทาสีผนังร้านใหม่ แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าเป็นชายต่างชาติสองคนที่เธอไม่รู้จักอยู่ที่นั่น
“ชายทั้งสองคนเข้ามาจับขา ไหล่ แขน และเท้าของฉัน ทำให้ฉันขยับไม่ได้ จากนั้นพวกเขาเอาสก็อตเทปพันเท้า และปิดปากของฉัน” นี กล่าวกับผู้สื่อข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย
นี กล่าวต่อว่าผู้ชายหนึ่งในนั้นได้ราดน้ำกรดลงบนใบหน้าของเธอ และพยายามปลดกางเกงของเธอเพื่อที่จะสาดน้ำกรดไปที่อวัยวะเพศ
หน้าของเธอไหม้คล้ำจากฤทธิ์ของน้ำกรด นีรีบออกจากบ้านหลังนั้นและตะโกนขอความช่วยเหลือเป็นภาษาอังกฤษ แต่เธอไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าหนีออกมาด้วยวิธีใด โดยเธอได้บันทึกวิดีโอเพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์เป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่ในยูทูบ
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว นีต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม เธอจำเป็นต้องย้ายออกมาอยู่บ้านเช่าในเวลาต่อมา เพราะค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น
ต่อมา นีได้ยืนคำร้องต่อตำรวจไทยและสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะยังไม่ได้ติดต่อเธอเกี่ยวกับการสอบสวนก็ตาม โดยเธอสันนิษฐานว่าชาวต่างชาติทั้งสองราย ก่อเหตุลงไปเพราะทำตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างหญิงชาวไทยที่ไม่พอใจในผลงานศิลปะของเธอ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยยืนยันว่าผู้ต้องหามีสัญชาติโปแลนด์ โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ติดต่อกับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยทั้งสองราย
ขอความคุ้มครองจากรัฐ
นี ซรัยโรธ ยังได้ขอให้รัฐบาลและสถานทูตกัมพูชาช่วยปกป้องเธอระหว่างพำนักในประเทศไทย รวมถึงพ่อแม่ของเธอในกัมพูชาด้วย เพราะเธอได้รับข้อความข่มขู่ถึงครอบครัวของเธอ
“ฉันเรียกร้องขอความคุ้มครอง เพราะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ตอนนี้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฉันและอนาคตของครอบครัวด้วย ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคิดจะทำอะไร” นี กล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่องค์กรภาคประชาสังคมระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยและรัฐบาลกัมพูชา ต้องไม่เพิกเฉยต่อกรณีนี้ และต้องทำงานร่วมกับทางการไทยในการจับกุมผู้กระทำความผิดด้วย
ด้านนางโชว บุน เอง เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และรองประธานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ กล่าวว่า เธอกำลังดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้
รัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชียว่า ได้ติดต่อกับสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเพื่อขอข้อมูล โดยได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ของไทยกำลังดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้ และจะขอความช่วยเหลือจากองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ
“สถานทูตกล่าวว่าจะไม่ยอมให้เหยื่อถูกทำร้ายเป็นครั้งที่สอง เพราะทางการไทยและกัมพูชากำลังทำงานเพื่อให้ความปลอดภัยแก่เหยื่อและครอบครัวของเธอ” โชว ระบุ
ด้านนางสาวหลิง โสภณ เจ้าหน้าที่ด้านสิทธิแรงงานประจำประเทศไทยศูนย์พันธมิตรสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานเซนทรัล ระบุว่า สถานเอกอัครราชทูตต้องดำเนินการเพื่อให้ความยุติธรรมแก่นี
“เราต้องนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เราไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้” หลิง ระบุ
ขณะที่นางสาวพร พรรณา รองประธานพรรคแสงเทียน ซึ่งเป็นพรรคเยาวชนแห่งชาติ ในประเทศไทย ซึ่งติดตามคดีนี้ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลกัมพูชาที่เพิกเฉยต่อสวัสดิภาพของประชาชนในต่างประเทศ
เรดิโอฟรีเอเชีย สำนักข่าวร่วมเครือเบนาร์นิวส์ ร่วมรายงาน