นายกฯ ยกเลิกคำสั่งควบคุมการเผยแพร่ข่าวปลอม หลังศาลคุ้มครองชั่วคราว

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2021.08.10
กรุงเทพฯ
นายกฯ ยกเลิกคำสั่งควบคุมการเผยแพร่ข่าวปลอม หลังศาลคุ้มครองชั่วคราว พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉีดเจลล้างมือใส่ผู้สือข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงคำถามเกี่ยวกับการปรับ ครม. ระหว่างการแถลงข่าว ในกรุงเทพฯ วันที่ 9 มีนาคม 2564 เอกสารแจก / รัฐบาลไทย / AFP
รัฐบาลไทย/เอเอฟพี

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามยกเลิกข้อกำหนด ฉบับที่ 29 ตามพระราชกำหนดการบริหารแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวและให้อำนาจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ (IP address) ที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารในอินเทอร์เน็ตที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดนั้นได้ โดยมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมานี้ 

ด้าน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความฝ่ายผู้ฟ้องคดี เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์ว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ถือเป็นชัยชนะของผู้ฟ้องคดี และต่อจากนี้ ศาลน่าจะจำหน่ายคดีที่ทางผู้ฟ้องได้ขอให้ศาลพิจารณายกเลิกคำสั่งข้อกำหนดฉบับที่ 29 โดยถาวร ออกจากสารบบความ ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ เป็นจำเลย เพราะประกาศที่มีปัญหาในคดีนั้นได้สิ้นสุดไปแล้ว

ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้ลงนามในประกาศยกเลิกข้อกำหนดฉบับที่ 29 ดังกล่าว ซึ่งตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาในวันอังคารที่ 10 สิงหาคม 2564 นี้ โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพราะศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น และในทางปฏิบัติ รัฐบาลยังไม่ได้บังคับใช้ข้อกำหนดนั้น และศาลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่อาจนำมาตรการทางกฎหมายอื่นมาบังคับใช้ในการควบคุมการเผยแพร่ข้อความได้

“อาศัยอำนาจความความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดให้ยกเลิกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่29) ลงวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป” ข้อความที่ประกาศในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งลงนามโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุ

ในเรื่องนี้ นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความฝ่ายผู้ฟ้องคดี เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์ว่า ถือเป็นชัยชนะของผู้ฟ้องคดี

“ถ้าเกิดเป้าหมาย คือมีการยกเลิกคำสั่งฉบับนี้ก็ถือว่าเป็น ชัยชนะของเสรีภาพในการแสดงออก... ผมเห็นว่าถ้าดูตามตัวข้อกำหนดที่ออกเองวันนี้ เขาก็ได้ระบุว่าเหตุผลที่มีการยกเลิกส่วนหนึ่ง ก็เนื่องมาจากศาลได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วย เขาก็คงได้ทบทวนดูแล้วว่าไม่มีความจำเป็นต้องออกข้อกำหนดนี้ เขาเลยยกเลย” นายนรเศรษฐ์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ในส่วนคดีที่ศาลต้องแจ้งให้ พล.อ. ประยุทธ์ รับทราบนั้น ทนายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ศาลน่าจะจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เพราะถือว่าคดีนี้ไม่มีวัตถุแห่งคดีให้เพิกถอนแล้ว โดยฝ่ายผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่ง แต่ไม่ได้ฟ้องว่าฝ่ายจำเลยเป็นการกระทำละเมิดผู้ใด หรือเรียกค่าเสียหายทางคดี

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2564 นี้ ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวคดีที่ตัวแทนสื่อออนไลน์ฟ้อง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนข้อกำหนด ฉบับที่ 29 และศาลได้มีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพราะนายกรัฐมนตรีประกาศข้อกำหนดดังกล่าว โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

โดยศาลแพ่งเปิดเผยคำสั่งผ่านเอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน ระบุว่า ข้อกำหนดฯ​ ข้อ 1 ที่ห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว มิได้จำกัดเฉพาะข้อความอันเป็นเท็จ ย่อมเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของโจทก์ทั้งสิบสองคนและของประชาชน ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติคุ้มครองไว้ ทั้งไม่ต้องด้วยบางมาตราแห่งรัฐธรรมนูญฯ

ในส่วนของการให้อำนาจระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ (IP address) ที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารในอินเทอร์เน็ตที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ นั้น ศาลเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ในก่อนหน้านั้น เมื่อวันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564 ศาลแพ่งได้รับคำร้องคดีที่ตัวแทนจากสำนักข่าว The Reporters, Voice TV, The Standard, ประชาไท และอื่น ๆ รวม 12 คน พร้อมด้วยทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ยื่นฟ้องในคดีเลขที่ พ.3618/2564 เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนข้อกำหนด ฉบับที่ 29 รวมถึงขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและไต่สวนฉุกเฉินคดีดังกล่าว เพราะเห็นว่าข้อกำหนดฯ ของ พล.อ. ประยุทธ์ และได้พิจารณาไต่สวนพยานหลักฐานในวันเดียวกัน

เบนาร์นิวส์ ไม่สามารถติดต่อผู้ฟ้องคดีเพื่อขอความคิดเห็นได้ ในวันอังคารนี้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง