ผู้ป่วยโควิดรายวันทะลุหลัก 2 หมื่น

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เผยในวันพุธนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 20,013 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 188 ราย เป็นสถิติสูงสุดของยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตต่อวัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ออกมาตรการห้ามการชุมนุม มั่วสุม และจัดกิจกรรม รวมทั้งอนุมัติเงินเพิ่มเติมเป็น 6 หมื่นล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานในพื้นที่สีแดงเข้ม และอีกกว่าสามหมื่นล้านบาทเพื่อช่วยเหลือสถานศึกษา

ศบค. เปิดเผยว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2563 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 672,385 ราย โดยกว่าร้อยละ 90 เป็นการตรวจพบผู้ติดเชื้อหลังจากการเกิดการระบาดระลอกสามนับจากเดือนเมษายนนี้ ขณะที่มีผู้หายป่วยสะสม 455,806 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 5,503 ราย

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ระบุว่า “ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันพุธที่ 4 สิงหาคม 2564 จำนวน 20,200 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 211,076 ราย เสียชีวิต 188 ราย” และฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้ว 18,578,096 โดส โดยมีผู้ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม 4,085,711 ราย

เมื่อค่ำวันอังคาร เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 9) หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใด ๆ ทั่วราชอาณาจักร 

หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใด ๆ ทั่วราชอาณาจักร ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้น

โดยใช้อำนาจแห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยให้มีผลทันที ประกาศ ซึ่งลงนามโดย พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบฯ ระบุ

อย่างไรก็ตาม ประกาศดังกล่าวมีข้อยกเว้นให้สามารถดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการขนส่งหรือขนย้ายประชาชน กิจกรรมเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและการสาธารณสุข กิจกรรมเกี่ยวกับการให้บริการประชาชน การรวมกลุ่มของบุคคลตามปกติในที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน การประชุม หรือออกกำลังกายในสถานที่ราชการกำหนด และกิจกรรมที่ดำเนินโดยรัฐซึ่งได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่

ขณะที่ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในวันพุธนี้ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติวงเงินเพื่อเยียวยา ผู้ประกอบการ และแรงงานในพื้นที่ 29 จังหวัดที่รัฐให้ดำเนินการตามมาตรการสูงสุด และสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วย

“เพิ่มกรอบวงเงินเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิม 30,000 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายให้ความช่วยเหลือ ยังคงครอบคลุมกลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการในกิจการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนที่อยู่ในระบบประกันสังคมและไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ระยะเวลาการช่วยเหลือ กลุ่ม 13 จังหวัดเดิม ได้แก่ ก.ค.-ส.ค. 64 (2 เดือน) กลุ่ม 16 จังหวัดที่เพิ่มเติม คือ ส.ค. 64 (1 เดือน)” นายอนุชา ระบุ

นอกจากนั้น ครม. อนุมัติ วงเงิน 3.2 หมื่นล้านบาท สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ 2.2 หมื่นล้านบาท และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 1 หมื่นล้านบาท โดยจะช่วยเหลือนักเรียนคนละ 2 พันบาท เป้าหมาย 10.9 ล้านคน ช่วยเหลือสถานศึกษาไม่เกิน 1 หมื่นบาทใน 3.4 หมื่นแห่ง และมาตรการลดค่าเรียนสำหรับนักศึกษาด้วย รวมทั้งช่วยเหลือสถาบันอุดมศึกษาด้วย

แอสตราเซเนกา แถลงส่งวัคซีนให้ไทยแล้ว 11.3 ล้านโดส

บริษัท แอสตราเซเนกา ประเทศไทย เปิดเผยว่า การผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นไปด้วยดีมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจะสามารถส่งวัคซีนให้กับประเทศไทยได้ตามแผนที่ตั้งเอาไว้ และได้เริ่มจัดสรรวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยให้กับประเทศใกล้เคียงแล้วในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน

“ตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 5.3 ล้านโดส ให้กับกระทรวงสาธารณสุข ตามแผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้… กระบวนการผลิตสามารถดำเนินไปได้ราบรื่นตามแผน จะสามารถจัดสรรและส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศไทยได้ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ส่งมอบให้แก่ประเทศไทยจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 11.3 ล้านโดส”​ นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ระบุ

นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ยังได้เปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา 4.15 แสนโดส ซึ่งรัฐบาลอังกฤษบริจาคให้กับประเทศไทยนั้นถึงไทยแล้ว และนางจุฬามณี ชาติสุวรรณ อธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยรับมอบในช่วงดึกของวันอังคารที่ผ่านมา

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช ในกรุงเทพฯ ร่วมรายงานข่าว