กทม. ปิดสถานบันเทิง 196 แห่ง 6-19 เม.ย. 64 หลังพบติดเชื้อเชื่อมโยงผับ-บาร์
2021.04.06
กรุงเทพฯ
ในวันอังคารนี้ กรุงเทพมหานคร เริ่มปิดสถานบันเทิง 196 แห่งในเขตคลองเตย, วัฒนา และบางแค เป็นเวลาสองสัปดาห์ หลังจากพบผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงจำนวนมาก แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการควบคุมโรคยังไม่เข้มข้นถึงขั้นล็อกดาวน์
ด้านพรรคเพื่อไทย แถลงตำหนิรัฐบาลที่ทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ แนะให้เยียวยาสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิด
“กทม. สั่งปิดสถานบันเทิง 196 แห่ง ใน 3 เขต คลองเตย-วัฒนา-เขตบางแค ตั้งแต่ 6-19 เม.ย. 64 หลังพบผู้ติดโควิด-19 จำนวนมาก ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เฟซบุ๊กแฟนเพจ ไทยรู้สู้โควิด ระบุในวันนี้
ประกาศดังกล่าว สืบเนื่องจากวันที่ 4 เมษายน 2564 กรุงเทพฯ พบว่า ผู้ติดเชื้อในจังหวัดปทุมธานี 5 ราย มีประวัติเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กระทั่งในวันที่ 5 เมษายน 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 71 ราย ใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม ปทุมธานี เลย ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสงคราม สระแก้ว และชุมพร นำมาซึ่งการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพฯ และประกาศมาตรการป้องกันโรค
“1. ปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตดังต่อไปนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2564 เขตวัฒนา คลองเตย บางแค 2. สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด นอกจากข้อ 1 ซึ่งพบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน แต่ยังปิดไม่ครบ 14 วัน ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อแจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ปิดสถานที่ให้ครบ 14 วัน” ประกาศ ซึ่งลงนามโดย พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุ
“3. กรณีเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตรวจพบการแพร่ระบาดในสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด ให้ปิดสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลา 14 วัน โดยให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อแจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ปิดสถานที่ ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ” ตอนหนึ่งของประกาศ ระบุ
ต่อการแพร่ระบาดดังกล่าว นายอนุทิน เปิดเผยแก่สื่อมวลชนที่ที่ทำการพรรคภูมิใจไทยว่า มาตรการป้องกันโรคหลังจากนี้จะยังไม่เข้มงวดถึงขนาดห้ามเดินทางออกนอกเขตพื้นที่
“คงยังไม่ถึงขั้นมีล็อคดาวน์ หรือกักตัวอะไร ยกเว้นถ้าเข้าไปที่ที่มีการติดเชื้อเยอะ มีระบาดเยอะ แล้วก็การสอบสวนโรคไปเกี่ยวโยงด้วยก็ต้องมีการนำมาเฝ้าระวัง แต่ว่าใช้ชีวิตตามปกติ สีแดง หลักๆ การติดเชื้อช่วงหลังมาจากผับบาร์สถานบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ ก็ต้องระวังตรงจุดนี้ การเดินทางเป็นเรื่องปกติ” นายอนุทิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงนั้นเป็นความบกพร่องของรัฐบาล
“สิ่งที่เกิดขึ้นของการระบาดในระลอกนี้ แสดงให้เห็นถึงการละเลยในการปฏิบัติและคุมเข้มสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐ ศบค. ปล่อยปะละเลยจนเกินไปหรือไม่ ทำให้เกิดการระบาดของคลัสเตอร์ระลอกใหม่ใจกลางเมือง สาเหตุเป็นเพราะว่า ศบค. มักจะยึดหลักที่เน้นการระบาดการแพทย์ทางเดียว คือ เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ และความมั่นคง โดยไม่มีมิติของผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมและเศรษฐกิจ จึงไม่เคยสนใจปัญหาปากท้องที่เกิดขึ้น” น.ส.อรุณี กล่าว
“การสั่งปิดสถานบันเทิงเมื่อคืน โดยภาวะฉุกเฉิน โดยไร้มาตรการเยียวยาในการแก้ไข เท่ากับลอยแพผู้ประกอบการและลูกจ้างกว่าหลายพันชีวิต เมื่อปิดแล้วจะดูแลคนกลุ่มนี้อย่างไร รัฐบาลยังไม่มีคำตอบ” น.ส.อรุณี กล่าวเพิ่มเติม
ในวันนี้ กรมควบคุมโรค เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 ว่า พบผู้ติดเชื้อยืนยันใหม่ 250 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 29,571 ราย หายป่วยแล้ว 27,948 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยมีผู้เสียชีวิตสะสม 95 ราย
เตือนประชาชนระมัดระวังติดเชื้อช่วงสงกรานต์
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยผ่านเว็บไซต์กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ขอให้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2564 นี้ประชาชนงดการสาดน้ำ ล้างมือ และใส่หน้ากากอนามัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
“กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงไปในที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก รวมถึงสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ… โดยการจัดพิธีรดน้ำดำหัว ขอให้จัดตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมตามขนาดของสถานที่ 1 คนต่อ 1 ตารางเมตร หลีกเลี่ยงจัดในที่คับแคบ หรือในพื้นที่ห้องปรับอากาศ รดน้ำโดยเรียงแถวเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร และสวมหน้ากากอนามัยทุกคน” นพ.โอภาส กล่าว
“หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน ส่วนการจัดงานสงกรานต์ ขอให้จัดตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัดเช่นกัน การจัดกิจกรรม ยกเว้นการสาดน้ำ ให้มีการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยทุกคน จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมตามขนาดของสถานที่ 1 คน ต่อ 1 ตารางเมตร จำกัดเวลาตามสมควร ให้จัดในพื้นที่โล่งแจ้ง อากาศระบายได้ดี งดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก” นพ.โอภาส ระบุ