ตำรวจจับอดีตทหารเกณฑ์ยิงคนใน รพ.สนามปทุมฯ เสียชีวิต 2 ราย

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2021.06.24
กรุงเทพฯ
ตำรวจจับอดีตทหารเกณฑ์ยิงคนใน รพ.สนามปทุมฯ เสียชีวิต 2 ราย เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหา อดีตทหารเกณฑ์ ยิงประชาชนเสียชีวิต 2 ราย ได้ที่บ้านญาติ ในจังหวัดระนอง วันที่ 24 มิถุนายน 2564
เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวอดีตทหารเกณฑ์ ซึ่งก่อเหตุบุกยิงประชาชน ในร้านสะดวกซื้อย่านลาดพร้าว และโรงพยาบาลสนาม ในจังหวัดปทุมธานี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หลังหลบหนีไปกบดานในจังหวัดระนอง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเตือนญาติช่วยดูแลสมาชิกครอบครัวจากความเครียดช่วงโควิด-19

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุตัวผู้ต้องหารายนี้ คือ นายกวิน แสงนิลกุล อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ระหว่างปี 2560-2562 ซึ่งอ้างว่าการที่ก่อเหตุเพราะถูกทำร้ายในครั้งที่ตนเป็นทหาร

หลังทราบเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับสื่อมวลชนว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยรัฐบาลจะเยียวยาตามมาตรการที่มีอยู่

“ทุกคนประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เข้าใจดีว่ามีความเครียด จึงอยากฝากให้คนในครอบครัว หรือคนใกล้ชิดช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรม หากพบปัญหาขอให้ปรึกษาหน่วยงานราชการ หรือผู้นำท้องถิ่น” นายกรัฐมนตรี ระบุ

เจ้าหน้าที่ระบุว่า เมื่อเวลา 02.30 น. นายกวิน ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อ หน้าปากซอยลาดพร้าว 25 เสียชีวิต 1 ราย ต่อมา 03.30 น. นายกวินใส่ชุดทหารลายพรางเข้าไปยังโรงพยาบาลสนาม ภายในสถาบันธัญญารักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 1 ราย แล้วใช้รถยนต์กระบะขับหลบหนี ต่อมาได้แวะเติมน้ำมันที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน เพราะไม่ยอมจ่ายค่าบริการ ก่อนหนีไปหลบซ่อนที่บ้านญาติ ในจังหวัดระนอง

ต่อมาเมื่อ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 60 นาย นำกำลังเข้าปิดล้อม บ้านพักใน อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งพบรถยนต์กระบะของนายกวินจอดอยู่ นายกวินได้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่เจ้าหน้าที่ 2 นัด แต่เจ้าหน้าที่ยังล้อมบ้านหลังดังกล่าวไว้ กระทั่งเวลา 12.20 น. นายกวินได้ออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยญาติของนายกวิน 3 คนซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ปลอดภัยดี

พล.ต.อ.สุชาติ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า หลังปิดล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับญาติผู้ต้องหาเพื่อให้ช่วยเกลี้ยกล่อม กระทั่งนายกวินยอมมอบตัว

“เบื้องต้น คดีมีเหตุมาจากพื้นที่ สน.พหลโยธิน มีการซื้อเบียร์แล้วถกเถียงกันกับพนักงาน จนเป็นเหตุให้กลับไปเอาอาวุธปืนเข้ามาก่อเหตุที่ร้านตรงพหลโยธิน หลังจากนั้นเขามีแรงจูงใจเป็นทุนเดิมจากที่ไม่ชอบเกี่ยวกับยาเสพติด ก็เข้าใจว่าโรงพยาบาลสนามเป็นสถานที่บำบัดกลุ่มคนเกี่ยวกับยาเสพติด ก็เลยเข้าไปก่อเหตุโดยไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองอะไรกันมาก่อน” พล.ต.อ.สุชาติ กล่าว

“เจ้าหน้าที่ตรวจยึดอาวุธปืนซิกซาวเออร์ ตราโล่ และปืนลูกโม่ ของกลางในคดี 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน เบื้องต้นพบว่า อาวุธดังกล่าวเป็นของส่วนตัว ไม่ได้เป็นอาวุธของหน่วยงานราชการ หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น ลงบันทึกประจำวันที่ระนอง นำตัวกลับเข้ากรุงเทพมหานคร ก่อนประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ปทุมธานี มาอายัดตัวต่อไป” พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวเพิ่มเติม

พล.ต.อ.สุชาติ ระบุว่า เบื้องต้น นายกวินจะถูกดำเนินคดีตามหมายจับศาลอาญาที่ 985/64 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร สำหรับ ผู้เสียชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้น คือ นายรัฐวิทย์ สันติคุปตพงศ์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ และนายสุขสันต์ เสาวพันธ์ อายุ 54 ปี ผู้ป่วยโควิด-19

ด้าน นายกวิน หลังถูกควบคุมตัว ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ผมไม่อยากฆ่าใครครับ ในค่ายทหารผมโดนคนที่ติดยาเสพติดมาทำร้ายผม ผมเลยอยากจะไปแก้แค้นคนที่ติดยาเสพติดครับ… ผมแค้นยาเสพติด และเห็นว่าเป็นศูนย์บำบัดผู้ป่วยยาเสพติด”

ระหว่างถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม นายกวิน กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตนเองถูกรุ่นพี่ในค่ายทหาร 2 คนทำร้าย ทำให้เกิดความคับแค้น จึงต้องมาก่อเหตุครั้งนี้ โดยได้กล่าวขอโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย

ต่อกรณีที่ผู้ต้องหาพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ทหารรุ่นพี่ พ.ท.มงคล ปุริสา ผู้บังคับพิเศษกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ ได้เรียกเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งนายกวินกล่าวถึงมาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยืนยันว่า ไม่เคยทำร้ายนายกวิน การฝึกเป็นไปตามกรอบของการฝึกทหารเกณฑ์ และนายกวินก็มีผลการฝึกค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม มารดาของผู้ต้องหา เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นายกวินเคยเข้ารับการบำบัดทางจิต ทั้งก่อนและหลังเข้ารับราชการทหาร ซึ่งหายเป็นปกติแล้ว

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เหตุดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้นในพื้นที่โรงพยาบาล

“สาธารณสุขจะเยียวยาผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่ ตามมาตรา 41 และเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยและให้กำลังใจครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย สำหรับผู้ป่วยอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ยังมีขวัญกำลังใจดี อาจมีบางคนตกใจเสียขวัญบ้าง ซึ่งได้รับการดูแลเยียวยาสภาพจิตใจโดยทีมจิตแพทย์แล้ว” นายอนุทิน กล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง