เจ้าหน้าที่ยิง 'รอซาลี หลำโสะ' เสียชีวิตในบ้านพ่อตาที่อำเภอหนองจิก
2021.08.02
ปัตตานี
พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยิงผู้ต้องหาในคดีก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 ราย หลังเจ้าตัวปฏิเสธการเจรจาขอให้มอบตัวที่บ้านของพ่อตา ในอำเภอหนองจืก จังหวัดปัตตานี ในตอนเช้าของวันจันทร์นี้
พ.อ. เกียรติศักดิ์ และญาติของผู้ตาย ระบุชื่อว่าคือ นายรอซาลี หลำโสะ ซึ่งตามฐานข้อมูลอาชญากรรม เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ มีหมายจับติดตัว 9 คดี รวมทั้งคดีฆ่าชิงทรัพย์สองสามีภรรยา แล้วนำศพไปทิ้งคลองและนำรถยนต์ไปประกอบระเบิด เหตุเกิดในพื้นที่ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี 2560
เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการนายหนึ่ง (สงวนนาม เพราะไม่มีหน้าที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยตรง) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมบ้านเลขที่ 19 ในบ้านทุ่งโพธิ์ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก ปัตตานี ในเวลาประมาณสี่นาฬิกา ไปจนถึง 9 นาฬิกา
พ.อ. เกียรติศักดิ์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุ มีผู้ก่อเหตุรุนแรง คือ นายรอซาลี หลำโสะ เป็นผู้ที่มีหมายจับ 9 หมาย หลบซ่อนและพักอาศัยอยู่ จึงได้พยายามจับกุมตัว
“ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปติดต่อทางพ่อแม่และภรรยาของนายรอซาลี ให้มาช่วยเจรจา แต่ทั้งหมดไม่ยอมเดินทางมา เพื่อช่วยเกลี้ยกล่อมให้นายรอซาลีออกมามอบตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา พยายามที่จะเจรจา แต่นายรอซาลีก็ไม่ยอมออกมามอบตัว สุดท้ายนายรอซาลีก็ตัดสินใจใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะ และทำให้นายรอซาลีเสียชีวิต” พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวในการแถลงข่าว
ทั้งนี้ ในการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ระบุว่า ในการปิดล้อมนั้น บุคคลอื่น 6 คน ได้ออกมานอกตัวบ้านแล้ว ได้แก่ นายอุเซ็ง มะลี โต๊ะอิหม่าม เป็นเจ้าของบ้านและเป็นพ่อตาของผู้เสียชีวิต ภรรยาของโต๊ะอิหม่าม บุตรสาวซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายและลูกสาววัยสี่เดือน และหลานอีกสองคน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า นายรอซาลี เป็นคู่แฝดกับนายซอบรี หลำโสะ ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะในพื้นที่ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 2562 และเป็นน้องชายของ นายบูคอรี หลำโสะ (ยังไม่ถูกจับกุม) มีภูมิลำเนาดั้งเดิมอยู่ที่บ้านควนหรัน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยทั้งสามคนเป็นทีมปฏิบัติการคนสำคัญของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่เรียกขานกันว่า "ทีมปัตตานี" ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก่อเหตุรุนแรงขนาดใหญ่บ่อยครั้ง
ทางด้านญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งขอสงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า “เขาไปดีแล้ว เหลือแต่เราที่ต้องสู้กันต่อไป เรารักเขา อัลลอฮ์รักเรามากกว่า สักวันเราจะเจอกัน ไม่ต้องห่วงทางนี้ พวกเราอีกมากที่จะต่อสู้แทน”
ขณะที่ นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซึ่งเคยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการต้อนผู้ต้องสงสัย จนต้องยิงต่อสู้ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังทำให้เหตุการณ์เป็นเหมือนเดิม
“ไม่ทำแบบนี้ก็ได้ ทำไมต้องจับตาย เรื่องอ้างว่ามีแผนก่อเหตุในอนาคต ทำเพื่อป้องกัน เขาคงไม่ไปวางแผนที่บ้านภรรยา มันน่าเศร้า ว่าเรายังมีภัยคุกคามเรื่องการก่อการร้ายอยู่อีกไหม หรือมีแต่ความแค้นส่วนบุคคล” นางสาวพรเพ็ญ กล่าวกับเบนาร์นิวส์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวความมั่นคงนายหนึ่งกล่าวว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า นายรอซาลี พร้อมพวก ได้เข้าไปกบดานในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุรุนแรง เนื่องในวันครบรอบสถาปนา “วันทหาร” หรือ “ตัจรีย์” หรือ “ตาจือรี” ของขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งตรงกับวันที่ 1 สิงหาคม โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุลอบวางระเบิดถังแก๊ส น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โจมตีรถของนายอำเภอสุคิริน เหตุเกิดในพื้นที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส แต่โชคดีที่นายอำเภอปลอดภัย มีเพียง อส. ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย