เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้าย ถล่มตำรวจตาย ในอำเภอรามัน ยะลา

มาตาฮารี อิสมาแอ และมารียัม อัฮหมัด
2021.04.26
นราธิวาส และปัตตานี
เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้าย ถล่มตำรวจตาย ในอำเภอรามัน ยะลา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์กระบะ ที่คนร้ายยิงแล้วเผาครอบครัวพ่อค้าสินค้าประเภทโฟมและพลาสติก ในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี วันที่ 24 เมษายน 2564
เบนาร์นิวส์

ในวันจันทร์นี้ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดยะลา กล่าวเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดและยิงโจมตีจุดบริการประชาชน สภ.จะก๊วะ ใกล้กับวงเวียนตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อตอนค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตหนึ่งนายและบาดเจ็บอีกหนึ่งนาย  นับเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง จากเหตุยิงแล้วเผาประชาชนเสียชีวิต 3 ราย ในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ในวันนี้ พล.ต.ต.ทินกร ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในขณะเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุว่า เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี

“ขณะนี้ทางตำรวจประสานฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงรอยต่อของ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ออกหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้าย ตามตำบล หมู่บ้าน เพื่อนำคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ต.ทินกร กล่าว

“สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คาดว่าเป็นกลุ่มใหม่ ชุดใหม่ ที่ก่อเหตุปั่นป่วนในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา แสดงศักยภาพว่าสามารถก่อเหตุได้” พล.ต.ต.ทินกร กล่าวเพิ่มเติม

พล.ต.ต.ทินกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า มีเจ้าหน้าตำรวจประจำจุดบริการประชาชน (สภ.จะก๊วะ) จำนวน 8 นาย กระจายอยู่ 4 มุม เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่เตรียมเปิดบวช (ละศีลอด) ช่วงหัวค่ำ แต่กลับมีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จอดอยู่ห่างออกไปประมาณ 15 เมตร แล้วขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ตกใส่หลังคาป้อม แล้วหล่นลงมาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แรงระเบิดและสะเก็ดระเบิด ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และรับบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้น คนร้ายยังได้ยิงปืนใส่ สภ.จะก๊วะ จำนวนหลายนัด ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในทางพื้นที่ ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

ส่วนศพของ ส.ต.อ.อนุสรณ์ นุ่นปาน อายุ 31 ปี นั้น ญาติเตรียมรดน้ำศพที่วัดเมืองยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา ในช่วงเที่ยงวันจันทร์นี้ และนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ในจังหวัดตรังต่อไป

แม่ทัพภาคสี่เชื่อว่า ผู้ก่อความไม่สงบต้องการแก้แค้น

เหตุการณ์รุนแรงทั้งสองเหตุการณ์ได้เกิดขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ยิงปะทะกับฝ่ายก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ จนฝ่ายหลังเสียชีวิตหนึ่งรายและถูกจับตัวได้สองราย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน นี้

ทั้งนี้ ในวันจันทร์นี้ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ เเม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุรุนแรงเมื่อวันเสาร์และคืนวันอาทิตย์ อาจจะเป็นการแก้แค้นของฝ่ายตรงข้าม 

“เหตุรุนเเรงที่มีมากขึ้นอาจเป็นการตอบโต้ของกลุ่มก่อเหตุหลังเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่จุดตรวจที่จังหวัดนราธิวาสเเละควบคุมตัวได้ 2 คน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนยุทธวิธีมาเป็นการใช้ระเบิดขว้างใส่จุดตรวจที่มากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปรับเปลี่ยนการปฎิบัติให้ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนถือศีลอด ที่ผู้ก่อเหตุบางส่วนยังคงเชื่อว่าได้บุญจากการก่อเหตุ” พลโทเกรียงไกร กล่าว

ด้าน พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวชี้แจงในวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันพฤหัสที่ 22 เมษายนนี้ ได้เกิดเหตุผู้ก่อความไม่สงบ 4 คน ใช้ระเบิดไปป์บอมบ์ ขว้างใส่ฐานชุดคุ้มครองตำบลลุโบะบายะ ม.4 ต.ลุโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส แต่ระเบิดตกด้านหน้าฐาน จากนั้นคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางรองในพื้นที่ บ.ยาโง๊ะ ม.5 ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

ขณะที่ ชุด ชป.จรยุทธ์ ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ทำการลาดตระเวนอยู่บริเวณเส้นทางดังกล่าว จึงได้ทำการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดแบบไม่ประจำที่อยู่บนเส้นทางดังกล่าว ห่างจากจุดขว้างระเบิดประมาณ 1.5 กิโลเมตร แล้วได้ยิงปะทะกันประมาณ 5 นาที คนร้ายเสียชีวิตหนึ่งราย และถูกจับกุมอีก 2 ราย คือ 1.นายมะรอฟา เจะอาลี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.5 ต.ลูโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ) 2. นายมะสูกี วามะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/3 ม.3 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส  3. นายมูฮัมมัดซับรี ลาเตะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 ม.10 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส และ 4. บุคคลที่ยังไม่ทราบชื่อ-สกุล (อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม)  โดยเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธปืนกลมืออูซี่ (UZI) จำนวน 1 กระบอกอีกด้วย

ยิงแล้วเผา ครอบครัวพ่อค้าผลิตภัณฑ์โฟมและพลาสติก

ส่วนในตอนเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายยิงแล้วเผาประชาชนอย่างเหี้ยมโหด บนถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.5 ต.ละหาร อ.สายบุรี

ร.ต.ท.กิตติชาติ สังข์แก้ว รอง สว. (สอบสวน) สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่า คนร้ายสี่คน ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์สองคันเป็นพาหนะ ได้ยิงรถยนต์กระบะส่งสินค้าประเภทโฟมและพลาสติกที่เดินทางจากหาดใหญ่ เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดนราธิวาส จนทำให้มีผู้เสียชีวิตสามราย โดยคนร้ายได้กราดยิงเหยื่อประมาณสามสิบนัด และยังได้เผาศพรถยนต์กระบะที่มีร่างของเหยื่อรายหนึ่งอีกด้วย

ร.ต.ท.กิตติชาติ ระบุชื่อผู้เสียชีวิต ดังนี้คือ หนึ่ง นายสันติพัฒนา กิตติประภานันท์ อายุ 26 ปี (หลานของนายสุพร) ส่วนในที่เกิดเหตุ ยังพบผู้เสียชีวิต คนที่สอง นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างรถด้านคนขับ คือ นายสุพร กิตติประภานันท์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 บ้านคลองยาเหนือ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าศีรษะและลำตัว และที่บริเวณใต้คอนโซลที่นั่งข้างคนขับ พบศพถูกเผาไหม้เหลือแต่กระดูก ทราบชื่อคือ นส.จิราภรณ์ กิตติประภานนท์ อายุ 26 ปี (ลูกสาวของนายสุพร) ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. และขนาด 9 มม. ตกเกลื่อนกว่า 30 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วน พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผู้การตำรวจเมืองปัตตานี กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายใช้อาวุธปืนไรเฟิล และปืนสั้นขนาด 9 มม. ไล่ยิงใส่รถยนต์กระบะ ที่มีนายสันติพัฒนาเป็นผู้ขับ และมีนางสาวจิราภรณ์กับนายสุพร นั่งมาด้วย โดยขับหนีได้ประมาณ 100 เมตร ก่อนรถเสียหลักตกข้างทาง จากนั้น คนร้ายได้เข้ามายิงใส่ซ้ำ ทำให้ นางสาวจิราภรณ์ เสียชีวิตทันที ส่วนนายสุพร คนร้ายเข้ามาลากออกไปยิงนอกรถ จนเสียชีวิต ก่อนราดน้ำมันและจุดไฟเผา ก่อนหลบหนี ส่วนนายสันติพัฒนาได้รับบาดเจ็บพยายามหนีออกจากรถไปได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่นกล่าวว่า นายสันติพัฒน์ และถูกนำส่งตัวโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สายบุรี แต่ก่อนที่เสียชีวิตระหว่างทาง เพราะเสียเลือดมาก

พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่า มีความโหดร้ายและรุนแรงมาก ซึ่งผู้ประสบเหตุเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เหตุแบบนี้เคยเกิดขึ้นมานานมาแล้ว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

“ในข้อมูลความมั่นคง เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดิม ๆ คือ กลุ่มของนายอับดุลเลาะ ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญที่สั่งการในการก่อเหตุในพื้นที่ อ.สายบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งแนวร่วมบางคนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว แล้วการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นการตอบโต้หลังการวิสามัญคนร้ายในพื้นที่ อำเภอยิ่งอ จังหวัดนราธิวาส และอาจจะเป็นการแสดงศักยภาพในการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ตน” พล.ต.คมกฤช กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์

ในวันจันทร์นี้ เจ้าหน้าที่ ศพฐ. 10 กล่าวว่า ปลอกกระสุนปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 5 ปลอก ที่ส่งตรวจนั้น ใช้ยิงมาจากปืน AK-102 กระบอกเดียวกัน และตรวจพบว่า ใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันกับคดีอื่นที่มีประวัติเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของ ศพฐ.10 จำนวนรวม 5 คดี 

ภาคประชาสังคมกังวลใจกระบวนการพูดคุย

นส.รุ่งรวี เฉลิมศรีภิญโญรัช นักวิจัยอิสระที่ศึกษาเรื่องความขัดแย้งในภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง ที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอกที่ Australian National University กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า กลุ่มขบวนการมักจะตอบโต้เจ้าหน้าที่เพื่อการแก้แค้น

“เป็นรูปแบบการแก้แค้นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันที่มีมานาน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกลุ่มขบวนการอ้างความชอบธรรมทางศาสนา” รุ่งรวี กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ในวันนี้

ด้านนายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายพุทธเพื่อสันติภาพ กล่าวว่า การเกิดเหตุกับคนไทยพุทธที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะเหตุยิงเเละเผา 3 คน ใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้เกิดคำถามถึงข้อตกลงรอมฎอนสันติสุข ระหว่างคณะพูดคุยสันติสุขระหว่างตัวเเทนกลุ่มขบวนการเเละรัฐไทยว่ามีอยู่หรือไม่ เเละหากมีข้อตกลงนี้ ก็ทำให้เกิดคำถามต่อว่า ตัวเเทนคณะพูดคุยของกลุ่มขบวนการที่เป็นกลุ่มใหม่มีอำนาจมากพอในการสั่งการกลุ่มก่อเหตุในพื้นที่มากน้อยเพียงใด

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง