คนร้ายชายแดนใต้ ยิงรองสารวัตร-ชายไทย ตายสองราย ในห้วงเวลา 12 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายแต่งตัวในชุดผู้หญิง ยิงรองสารวัตร สภ.โคกโพธิ์ ปัตตานี ด้วยอาวุธปืนสงครามจนเสียชีวิต เมื่อตอนค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมา และในตอนเช้าของวันอังคารนี้ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชายไทยเสียชีวิต อีกหนึ่งราย ในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส

รายแรก เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.10 น. ของคืนวันจันทร์ ที่ 7 ธ.ค. 2563 โดย พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อยผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำ สภ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต 1 นาย เหตุเกิดบนถนน ในพื้นที่บ้านมะกรูด หมู่ที่ 6 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตรงข้ามกับโรงพยาบาลโคกโพธิ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสกูปปี้ ล้มลงข้างทาง และพบร่างของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ คือ ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร อายุ 54 ปี รองสารวัตร สภ.โคกโพธิ์ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ นอนเสียชีวิตจมกองเลือด

“จากการสอบสวน ก่อนเกิดเหตุได้มีชายสองคน คลุมหน้าแบบผู้หญิง ขี่รถจักรยานยนต์ 1 คัน จอดรอผู้ตายอยู่ที่หน้าร้านขายยา ใกล้ทางเข้าพีพีรีสอร์ท ขณะผู้ตายกำลังจะออกจากร้านน้ำฝนมินิมาร์ท เมื่อผู้ตายขึ้นมอเตอร์ไซค์ขี่มาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายจึงได้ขี่มอเตอร์ไซค์ตามประกบ โดยคนข้างหลังใช้อาวุธปืนสงคราม คาดว่าเป็นปืน เอ็ม.-16 ยิงผู้ตายประมาณ 10 กว่านัด จนล้มลง แล้วได้เอาปืนสั้นขนาด .357 ของผู้ตายไปด้วย” พ.ต.อ.ฉลอง กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 9 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุส่งตรวจสอบแล้ว

ต่อมาในเช้าวันอังคารที่ 8 ธ.ค. นี้ พ.ต.อ.ฉลอง ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายที่ยิง ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร อายุ รองสารวัตรปราบปราม สภ.โคกโพธิ์ เสียชีวิตริมถนนหน้าโรงพยาบาลโคกโพธิ์ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่จับภาพคนร้ายได้ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ส่งตรวจพิสูจน์ด้วยอุปกรณ์พิเศษ เพื่อตรวจหาคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว

“ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน ในพื้นที่บ้านคลองช้างออก ม.7 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ ตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นบุคคลตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ จึงนำส่งที่หน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ปัตตานี” พ.ต.อ.ฉลอง กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ส่วนเหตุการณ์ฆาตกรรมเหตุที่สอง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.50 น.ของวันอังคารนี้ โดย พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ แคยิหวา สวญ.สภ.ปะลูกาสาเมาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงราษฎรชายไทย เสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณซอยตรงข้ามวัดเชิงเขา ม.4 ต.ปะลูกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ตายนอนคว่ำบริเวณริมทาง ทราบชื่อ คือ นายต่วนนัสรัน มือคะ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 61/1 หมู่ 10 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จึงนำส่งโรงพยาบาลบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส

จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายกำลังเดินทางจะกลับบ้านพัก ในระหว่างทางได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ยิงใส่ก่อนหลบหนี ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ใกล้ผู้ตาย จำนวน 4 ปลอก จึงนำเก็บวัตถุพยานเพื่อตรวจสอบต่อไป 

ส่วนประเด็นและสาเหตุ พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ กล่าวในเบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบสวนและสืบสวน

นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบข้อมูลว่า นายต่วนนัสรีน ผู้เสียชีวิต เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองอาวุธปืน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 และถูกจำคุก 6 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมานี้

ในวันเดียวกันนี้ พันตำรวจเอก วศิน จินตเสถียร ผกก.สอบสวน จชต. ในฐานะผู้ช่วยโฆษก กกล.ตร.จชต. กล่าวว่า กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมของตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จนมีผลเป็นรูปธรรม ทำให้เหตุการณ์ความไม่สงบลดลงอย่างเด่นชัด

โดยมีข้อมูลการปฏิบัติงานด้านป้องกันปราบปราม ในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งมีสถิติการเกิดเหตุ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึง 30 พฤศจิกายน 2563 รวม 27 เหตุการณ์ แยกเป็นเหตุก่อความรุนแรง 7 เหตุ อาชญากรรมทั่วไป 15 เหตุ เหตุก่อกวน 5 เหตุ ทั้งนี้ ในการปฏิบัติงานทุกอย่างทางหน่วยงานได้ทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อหวังว่าสันติสุขคงจะกลับมาภายใต้แนวคิดองค์การเข้มแข็ง สร้างความยุติธรรม ประชาชนอยู่อย่างปลอดภัย