พลังประชารัฐเลือก “ประวิตร” ชิงตำแหน่งนายกฯ เพียงผู้เดียว
2023.01.27
กรุงเทพ
ในวันศุกร์นี้ พรรคพลังประชารัฐมีมติเลือก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคแต่เพียงผู้เดียว ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2566 นี้ ด้าน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง แกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งที่สำคัญกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องร่วมรัฐบาล
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยในการแถลงข่าว ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ หลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่ 1/2566 ว่า ที่ประชุมพรรคได้ออกเสียงคัดเลือกเสนอบุคคลที่เห็นสมควรที่จะให้พิจารณาได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐแล้ว
“สมาชิกเห็นตรงกันว่าเสนอ พล.อ. ประวิตรเพียงคนเดียว เพราะคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์ศรีของพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด และเชื่อว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างแน่นอน” นายไพบูลย์กล่าว
การประชุมครั้งนี้มีสมาชิกพรรค 500 คนเข้าร่วม ขณะที่ พล.อ. ประวิตร เองไม่ได้เดินทางไปยังที่ประชุมพรรคเนื่องจากติดภารกิจอื่น จึงมอบหมายให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานในที่ประชุมแทน
ก่อนหน้านี้ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐเคยเสนอชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวมาแล้ว และประสบความสำเร็จสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้งหมด รวมกับ ส.ส. พรรคตัวเอง ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคขนาดเล็กกว่า 10 พรรค
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 พล.อ. ประยุทธ์ ได้ร่วมกิจกรรมเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ และพรรครวมไทยสร้างชาติตัดสินใจที่จะเสนอชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามพรรคแต่เพียงผู้เดียว
“พรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้เสนอมาแล้วว่ายินดีสนับสนุนผมในการเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผมก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน แต่วันนี้พลังประชารัฐก็ได้มีการตกลงใจในการเสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมก็ได้ตัดสินใจวันนี้แล้วกัน” พล.อ. ประยุทธ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชน เรื่องการย้ายพรรคครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565
พล.อ. ประวิตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ปัจจุบัน อายุ 77 ปี เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2557 กระทั่งหลังการเลือกตั้งปี 2562 ก็ยังคงดำรงตำแหน่งเดิมต่อมา
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2563 พล.อ. ประวิตร ได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อจากนายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้เกิดรอยร้าวขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ โดยเมื่อเดือนกันยายน 2564 ท่ามกลางกระแสต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ ของเยาวชน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งขณะนั้นเป็น ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ พยายามจะรวม ส.ส. ให้ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ต่อมา ร.อ. ธรรมนัส ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เกิดข่าวลือว่า พล.อ. ประยุทธ์ ขัดแย้งกับ พล.อ. ประวิตร กระทั่ง พล.อ. ประยุทธ์ ตัดสินใจเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐเลือก พล.อ. ประวิตร ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สื่อมวลชนได้สอบถาม น.ส. แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ณ เวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทย ในจังหวัดเลย ถึงความเป็นไปได้ในการร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ น.ส. แพทองธาร ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวในเบื้องต้น
“เชื่อว่าประชาชนน่าจะติดตามข่าว น่าจะมีวิจารณญาณว่ายังไง ตอนนี้ อิ๊งไม่ได้คุยจริง ๆ ยังไม่มีดีล ไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น.ส. แพทองธาร กล่าว
ในวันเดียวกัน ยังปรากฏภาพ พล.อ. ประวิตร และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมหารือกับนายอุตตม หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ทำให้มีข่าวลือว่า พล.อ. ประวิตร ต้องการดึงพรรคสร้างอนาคตไทยมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในอนาคต
ด้าน ผศ.ดร. ธัญณ์ณภัทร์ เจริญพานิช อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มองว่าการเปลี่ยนแปลงในพรรคพลังประชารัฐมีความสำคัญกับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้พรรคพลังประชารัฐนั้นตกต่ำถึงที่สุดในแง่ของความนิยมจากประชาชน ฉะนั้น การเปลี่ยนโฉมโดยที่ยังสามารถรวมขั้วอำนาจทั้งที่มีทุนทางเศรษฐกิจ และเครือข่ายนักการเมืองชั้นนำเข้ามาทำงานภายใต้พรรคใหม่จึงเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ แต่ก็ฟันธงไม่ได้ชัดเจนว่าพลังประชารัฐจะตัดขาดความสัมพันธ์อย่างสิ้นเชิงกับรวมไทยสร้างชาติหรือไม่” ผศ.ดร. ธัญณ์ณภัทร์ กล่าว
คุณวุฒิ บุญฤกษ์ จากเชียงใหม่ ร่วมรายงาน