เจ้าหน้าที่ยิงปะทะผู้ต้องหาตาย 2 ราย ในหนองจิก
2023.08.16
ปัตตานี
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 2 ราย ในการยิงปะทะ ขณะปิดล้อมบ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอหนองจิก ตั้งแต่เวลาก่อนรุ่งสางของวันพุธนี้
พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่บ้านเกาะหม้อแกง ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนเพื่อเตรียมก่อเหตุ ในพื้นที่ตำบลท่ากำชำ
“เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และเครือญาติ ในการเป็นผู้ช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งพยายามวิ่งฝ่าวงล้อมเพื่อหลบหนี จึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ภายหลังการปฏิบัติพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิตจำนวน 2 ราย” พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์
ผู้เสียชีวิต คือ นายแวอูเซ็ง ดือราเฮง มี 4 หมายจับจากการก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต ยิงชาวบ้านบาดเจ็บ และปล้นร้านทอง ส่วนนายรอกิ สิเดะ มี 3 หมายจับ และพบว่าเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุวางระเบิดปั๊มบางจาก ดอนยาง เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2565
“เขาตายซาฮิดอัลลอฮ์รักและจะตอบแทนเขา คนอิสลามต่างต้องการเป็นคนที่ตายในซาฮิด เพราะไม่ได้ง่ายเลย ตอนนี้ได้ฝังเรียบร้อยมีเพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์มาร่วมพิธี ต่อไปก็เป็นเรื่องของพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนเขาก็ถือว่ารอผลตอบแทนจากอัลลอฮ์” ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวกับเบนาร์นิวส์ โดยขอสงวนชื่อเพื่อความปลอดภัย
ทั้งสองคนมีประวัติอาชญากรรมในหลายคดี กล่าวคือ นายแวอูเซ็ง ดือราเฮ็ง มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย ที่สำคัญ คือ เหตุปล้นร้านทองสุธาดา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562, เหตุกราดยิงร้านข้าวแกงปลาดุก เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ในพื้นที่ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย, เหตุยิง อส.หญิง ประภาพร แก้วมณีรัตน์ เสียชีวิต เมื่อ 2 เมษายน 2557 และเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน เสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย ในพื้นที่บ้านดอนนา ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 11 กันยายน 2561
ส่วน นายรอกิ สิเดะ อายุ 32 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย เหตุวางเพลิงร้านละดวกซื้อ ในปั๊มปตท.หนองจิก เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2559, เหตุลอบวางระเบิด จนท.ตำรวจ สภ.หนองจิก บาดเจ็บ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2562 และเหตุลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจากดอนยาง ในอำเภอหนองจิก เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2565
ปิดล้อมเจ็ดชั่วโมง
นายกอเซม มูณีมูสี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุยิงปะทะ กล่าวว่า ตนเองพร้อมด้วยสมาชิกในครอบครัว รวม 4 คน ต้องวิ่งหนีออกจากบ้านขณะเกิดเหตุ
“ผมและครอบครัวอยู่ภายในบ้านตามปกติ ปรากฏว่าเมื่อสองวันก่อน ผมกลับจากทำงานก็ทราบว่ามีบุคคลแปลกหน้าสองคนเข้ามาในบ้าน โดยมาขออาศัย ผมก็ไม่ได้สอบถามอะไรมาก จนกระทั่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่ปิดล้อมและยิงปะทะกันขึ้น” นายกอเซม กล่าวกับเบนาร์นิวส์
เจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า การยิงปะทะเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตีสามของวันพุธนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีกลุ่มคนร้ายเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าว จึงได้ประสานไปยังชุดหน่วย นปพ.ร่วม 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายปิดล้อมพื้นที่เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคลดังกล่าว
หลังจากนำกำลังมาถึงบ้านเป้าหมาย ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเจรจาให้ทางบุคคลต้องสงสัยที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านออกมามอบตัว แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้ มีการยิงกันไปมาและสงบลงชั่วคราว ในขณะนั้น พบว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว
ต่อมาเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้นำศาสนาและผู้นำหมู่บ้านเข้ามาเจรจาโดยผ่านเครื่องขยายเสียง พร้อมกับอพยพประชาชนใกล้เคียงออกมา แต่คนร้ายก็ยังไม่ยอมมอบตัว และได้เกิดเสียงปืนดังเป็นระยะ
จนกระทั่งเวลาสิบโมงครึ่ง ได้เกิดเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งหลายระลอกก่อนที่จะสงบลง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย รายแรกคือ นายแวอูเซ็ง ดือราเย็ง อายุ 36 ปี พบอาวุธปืน เอ็ม-16 ตัดสั้น อยู่ใกล้กับศพหนึ่งกระบอก ส่วนรายที่ 2 คือ นายรอกิ สิเดะ อายุ 32 ปี ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. หนึ่งกระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงในคดีความมั่นคงต่อไป
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ได้เชิญตัวเจ้าของบ้าน คือ นายกอเซม มูณีมูสี รวมทั้งคนในบ้านอีกสามคนไปสอบปากคำ ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาให้ที่พักพิง และให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ