ตัวประกันชาวไทย 17 คน กลับถึงมาตุภูมิ

ตัวประกันชาวไทยจำนวน 17 คน ที่กลุ่มฮามาสปล่อยตัวออกมาได้เดินทางกลับถึงมาตุภูมิแล้ว ในตอนบ่ายวันศุกร์นี้ หลังจากที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปเป็นตัวประกันท่ามกลางสงครามอิสราเอล-ฮามาส ที่ดำเนินมาเกือบสองเดือน ท่ามกล่างรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความปิติของบรรดาญาติ ๆ ที่มารอรับ

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้เดินทางไปอิสราเอลเพื่อเยี่ยมคนเจ็บและแรงงานไทยที่ถูกปล่อยตัวออกมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับคนไทยทั้ง 17 คน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวประกันกลุ่มแรกที่เดินทางกลับบ้านเกิด ขณะที่ยังมีอีก 6 ราย ที่อยู่ภายใต้การดูแลในโรงพยาบาลในอิสราเอล

นายพรสวรรค์ ปินะกาโล อายุ 30 ปี เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่รอดชีวิตกลับมา เขาวิ่งเข้าไปกราบเท้านายก้อง ผู้เป็นบิดา ซึ่งที่มารอรับที่สนามบิน จากนั้นทั้งสองโผเข้ากอดกันร้องให้ด้วยความดีใจ ก่อนที่นางลำพอง ผู้เป็นมารดา วิ่งเข้ามากอดลูกชาย 

"ตอนนี้ดีใจมาก ๆ ดีใจที่สุดในชีวิต ไม่รู้จะพูดคำไหนได้มากกว่าคำว่าดีใจ จะดีใจกว่านี้ถ้าเพื่อนแรงงานไทยในอิสราเอลไม่เสียชีวิต แต่ก็ดีใจที่หลายคนรอดชีวิต" นายพรสวรรค์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ในระหว่างการแถลงข่าวภายในอาคารสนามบิน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้โฟนอินเข้ามาต้อนรับ และสอบถามถึงความเป็นอยู่ของตัวประกันชุดนี้ และสอบถามถึงตัวประกันคนอื่น ๆ ที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา อีกอย่างน้อย 9 คน

“ตอนนี้ มีกำลังใจมากขึ้นครับท่าน” นายอุทัย แสงนวล ผู้แทนแรงงาน กล่าวตอบนายกรัฐมนตรี และระบุว่าแรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวมาไม่มีข้อมูลว่าแรงงานที่เหลือถูกกักตัว ณ ที่ใด และเป็นอย่างไรบ้าง

ต่อคำถามที่ว่า ได้รับการปฏิบัติโดยผู้ลักพาตัวดีหรือไม่ นายอุทัย ตอบว่า “ก็พอประมาณครับ ก็ดี ไม่ถึงกับเลวร้าย ดี ๆ ครับผม” จากนั้น นายอุทัยได้ขอให้ทุกคนยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต 39 ราย  

“ก่อนอื่นผมขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนแรงงานไทยของเราที่เสียชีวิต 39 ท่านด้วยกันครับ ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง” นายอุทัย กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าตา ก่อนที่จะแสดงความยินดีกับเพื่อนแรงงานไทยที่ปลอดภัยคนอื่น ๆ

การเดินทางกลับมาของแรงงานชุดนี้ ตรงกับช่วงเวลาที่อิสราเอลและฮามาสตกลงที่จะยืดระยะเวลาการหยุดยิงออกไปอีก

ฮามาสได้ปล่อยตัวแรงงานชาวไทยมาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มการหยุดยิงเมื่อวันศุกร์ที่ 24 เดือนนี้ ฮามาสได้ขอแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลและชาติต่าง ๆ กับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลคุมขังไว้ประมาณ 150 คน

กระทรวงการต่างประเทศไทย ระบุว่า ณ ปัจจุบัน ยังมีคนไทยอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาสอีกอย่างน้อย 9 คน มีคนเจ็บรักษาตัวในอิสราเอลอีก 2 คน และมีผู้เสียชีวิต 39 คน ซึ่งทางการไทยได้ส่งศพกลับเมืองไทยเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวในล็อตที่ 4 และ 5 ที่ยังคงรับการดูแลในเบื้องต้นที่โรงพยาบาล Shamir Medical Center (Assaf Harofeh) ในอิสราเอล ในขณะนี้

ปลาบปลื้ม

ทางด้าน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันว่า ตนเองมีความยินดีสามารถช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ โดยตลอดระยะเวลาสองเดือนนั้น สถานการณ์มีความไม่แน่นอน ทำให้ตนเองมีอารมณ์ร่วมไปกับทั้งตัวประกันและครอบครัว ที่มีความกังวลในเรื่องชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของตัวประกันทุกคน

“เมื่อผมได้พบกับทั้ง 17 ท่าน ในเบื้องต้นก็มีความยินดี มีความดีใจ ปลาบปลื้มใจ มีความโล่งอกสบายใจว่าทั้ง 17 ท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ มีความปลอดภัย และที่สำคัญ ยังยิ้มแย้มแจ่มใสได้ อันนี้เป็นสิ่งที่อิ่มเอมใจมาก” นายปานปรีย์ กล่าวแสดงความรู้สึก

ในวันเดียวกันนี้ นางวาสนา โยจำปา ชาวอุดรธานี มารดาของนายพรชัย อ่างแก้ว ตัวประกันที่เดินทางกลับมาในวันนี้ คุยกับเบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์ ตนเองดีใจที่ลูกชายปลอดภัยและตั้งใจจะให้เขาบวชแก้บน

"ในสามสี่วันแรกลูกชายคิดว่าคงไม่กลับออกมา ป้าไปอธิษฐานเอาที่วัดใกล้บ้าน ถ้าน้องกลับมาก็จะให้บวช" นางวาสนา กล่าว และบอกว่าที่บ้านกำลังเตรียมข้าวปลาอาหารเพื่อต้อนรับแขกเหรื่อที่จะมาร่วมฉลองการกลับมาของลูกชาย

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ระบุว่า ก่อนเกิดสงคราม มีแรงงานไทยทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล ประมาณ 30,000 คน ส่วนใหญ่ในภาคเกษตรกรรม ทั้งนี้ยังมีคนไทยประมาณหนึ่งในสามที่ยังไม่เดินทางกลับประเทศ

กลุ่มฮามาส ซึ่งปกครองชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ฉนวนกาซา ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลโดยไม่ให้ตั้งตัว ในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมานี้ พร้อมกับจับกุมชาวอิสราเอล ชาวไทย และชาวต่างชาติอื่น ๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรองกับอิสราเอลให้ยุติการโจมตีแก้แค้น และเพื่อแลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลจำคุกไว้

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 เดือนนี้ อิสราเอลและฮามาส ได้หยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 4 วัน เพื่อให้ขบวนรถให้ความช่วยเหลือสามารถเดินทางเข้าฉนวนกาซาเพื่อนำสิ่งของอุปโภคบริโภคไปให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนได้ หลังจากที่อิสราเอลโจมตีอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง  

ในระหว่างนี้ กลุ่มฮามาสยังได้ทยอยปล่อยตัวประกันทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติออกมา  

ความขัดแย้งระหว่างชาวอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ย้อนหลังไปหลายทศวรรษ โดยหลังจากที่อังกฤษและฝ่ายพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว อังกฤษได้สัญญาที่จะหาที่ตั้งประเทศให้กับชาวยิว

ในปี ค.ศ. 1947 องค์การสหประชาชาติ ได้มีมติตอบสนองความต้องการของอังกฤษ ซึ่งได้เลือกดินแดนของปาเลสไตน์ มีการแบ่งออกเป็นรัฐอาหรับและรัฐยิว แล้วก่อตั้งประเทศอิสราเอลขึ้นในปี ค.ศ. 1948 เหตุนี้ทำให้เกิดสงครามอาหรับ-อิสราเอล ซึ่งยุติในปีถัดมา ดินแดนดังกล่าวถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ รัฐอิสราเอล (Israel หรือ Jewish State), ฉนวนกาซา (Gaza Strip) อยู่ติดกับอียิปต์ และเขตเวสต์แบงค์ (West Bank) หรือดินแดนทางทิศตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน