รัฐเมียนมายื่นคำขาด นศ. เมียนมาในไทย ต้องกลับไปต่อพาสปอร์ตที่บ้านเกิด

ผู้สังเกตการณ์ : รัฐบาลเมียนมาแถลง ไม่ให้เยาวชนที่สามารถเข้ารับการเกณฑ์ทหารได้ หนีออกนอกประเทศ
เรดิโอเฟรีเอเชีย เมียนมา
2024.09.23
รัฐเมียนมายื่นคำขาด นศ. เมียนมาในไทย ต้องกลับไปต่อพาสปอร์ตที่บ้านเกิด ที่ทำการออกหนังสือรับรองสถานะบุคคล สำหรับแรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา ในประเทศไทย วันที่ 3 กรกฎาคม 2567
(เฟซบุ๊กเพจ Hazel.com Bangkok Services)

รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า นักศึกษาเมียนมาที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศไทยด้วยวีซ่านักเรียนระยะสั้นจะไม่สามารถต่อหนังสือเดินทางเล่มใหม่ที่สถานเอกอัครราชทูตในกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดเชียงใหม่ได้ หนทางเดียวที่ทำได้ คือต้องเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อต่อหนังสือเดินทางฉบับใหม่เท่านั้น

ประกาศข้อห้ามฉบับใหม่นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ทางการเมียนมาออกกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารฉบับล่าสุดกับพลเมืองของตน จุดประสงค์เพื่อเสริมกองกำลังทัพให้มีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากได้สูญเสียกำลังทหารจากการรบกับกองกำลังกบฏหลายฝ่ายที่ต่อต้านการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564

แต่ดูเหมือนว่าการออกกฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้ชายหนุ่มและหญิงสาวชาวเมียนมา ผู้มีคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดการบังคับเกณฑ์ทหาร เข้าร่วมกับกองกำลังต่อต้าน หรือหลบหนีออกจากประเทศ

“ดูเหมือนว่ากองกำลังทหารเมียนมาจะบีบบังคับให้เยาวชนกลับบ้านเกิด… และเราก็ต้องปฏิบัติตามถ้าหนังสือเดินทางของเราหมดอายุ” เยาวชนชายชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยกล่าว เขาเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลหลายรายที่ขอสงวนตัวตนเนื่องด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย “ไม่เช่นนั้น เราก็ต้องเปลี่ยนจากวีซ่านักเรียนไปเป็นวีซ่ารูปแบบอื่นแทน”

เยาวชนชายรายเดียวกันนี้เชื่อว่า กฎข้อห้ามที่รัฐบาลเมียนมาเพิ่งออกมาใหม่จะกระตุ้นให้พลเมืองชาวเมียนมาใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่หลบภัยอย่างผิดกฎหมายมากกว่าเดิม

“การเดินทางกลับประเทศไปทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเสี่ยงมากสำหรับเรา” เขาให้ข้อมูล

ข้อมูลจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในประเทศไทยระบุว่า ปัจจุบัน นักศึกษาชาวเมียนมาอย่างน้อย 3,700 ราย กำลังศึกษาอยู่ในประเทศไทย

จากแถลงการณ์ของทางการเมียนมา พลเมืองที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยสามารถยื่นขอหนังสือเดินทางแบบพิเศษ นั่นคือ “หนังสือเดินทางนักเรียน” เพื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ยอมเสียสละทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุด

ออง จอ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิแรงงานในประเทศไทย เห็นพ้องกับเยาวชนชาวเมียนมาในประเด็นที่ว่า แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวจะยิ่งกระตุ้นให้ประชากรชาวเมียนออกมาพำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายมากกว่าเดิม

“เยาวชนคือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าที่สุดของประเทศเมียนมา และพวกเขาก็กำลังเดือดร้อนเป็นอย่างมากจากข้อบังคับต่าง ๆ นานา ที่รัฐบาลเมียนออกมาริบเอาโอกาสที่ตนเองจะได้พัฒนาความรู้และทักษะทางการศึกษา” ออง จอ กล่าว

2-myanmar students2.jpeg
แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาต่อแถวยาว ที่ศูนย์ออกหนังสือรับรองสถานะบุคคล ในประเทศไทย วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 (เฟซบุ๊กเพจ Hazel.com Bangkok Services)

“ถ้าพวกเขาไม่สามารถต่อหนังสือเดินทางเล่มใหม่ได้สำเร็จ ก็ไม่สามารถที่จะพำนักอยู่ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เยาวชนเหล่านี้กลับมีท่าทีว่าตนเองพร้อมเสี่ยง เนื่องจากพวกเขาต้องการหลบหนีจากกฎหมายเกณฑ์ทหารที่เป็นอันตรายต่อตนเอง”

เรดิโอฟรีเอเชีย พยายามที่จะติดต่อสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาในกรุงเทพมหานคร รวมถึง พล.อ. ซอ มิน ตุน โฆษกของทางการเมียนมา เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบรับ

เนโพน ลัต โฆษกประจำสํานักนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือรัฐบาลเงาเมียนมา กล่าวว่า ทางการเมียนมาทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งอำนาจ แม้ว่าจะรวมถึงการสละชีวิตของเยาวชนในประเทศของตนก็ตาม

“ดูเหมือนว่าทางการเมียนมาจะพุ่งเป้าไปที่ประชากรกลุ่มชนชั้นกลางมากกว่ากลุ่มแรงงาน” เขาระบุ “รัฐบาลทหารพยายามที่จะสกัดกั้นไม่ให้เยาวชนเดินทางไปศึกษาต่อหรือทำงานในต่างประเทศ และบังคับให้พวกเขากลับประเทศต้นทาง ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดก็ตาม”

นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิแรงงานของชาวเมียนมาในประเทศไทยบางรายได้สนับสนุนให้ชาวเมียนมาสมัครเพื่อขอพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ก่อนที่หนังสือเดินทางจะหมดอายุ และย้ำว่า นี่คือวิถีทางเดียวที่เยาวชนเมียนมาจะสามารถหลบเลี่ยงข้อกำหนดใหม่ของรัฐบาลเมียนมาได้

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง