ศาลสั่งจำคุก “ไอซ์” ส.ส. ก้าวไกล ฐานหมิ่นสถาบัน
2023.12.13
กรุงเทพฯ
ในวันพุธนี้ ศาลอาญา พิพากษาจำคุก น.ส. รักชนก “ไอซ์” ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ในความผิดฐานหมิ่นสถาบันกษัตริย์เป็นเวลา 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา
น.ส. รักชนก ส.ส. ก้าวไกล เขตจอมทอง-บางบอน-หนองแขม เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดี 807 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในเวลา 09.00 น. โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคฯ คนปัจจุบัน เดินทางมาให้กำลังใจ
คดีนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 โดยนางมณีรัตน์ เลาวเลิศ ในฐานะประชาชนธรรมดาได้ไปร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เอาผิดกับ น.ส. รักชนก ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ @nanaicez (ปัจจุบัน คือสื่อโซเชียล X) จากการทวีตวิจารณ์วัคซีนโควิด-19, การรณรงค์ #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดำ ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และการรีทวีตข้อความเกี่ยวกับกษัตริย์ของทวิตเตอร์ “นิรนาม” ซึ่ง น.ส. รักชนก ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน
ในคดีนี้ อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส. รักชนก เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 แต่ได้ประกันตัวระหว่างสู้คดีด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ขณะที่โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ซึ่งติดตามคดี แย้งว่า หลักฐานที่ถูกใช้ในชั้นศาลมีเพียงภาพใบเดียวที่อ้างว่าเป็นภาพข้อความจากทวิตเตอร์ของ น.ส. รักชนก และเจ้าตัวปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทวีตข้อความดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ศาลได้อ่านคำพิพากษาว่า “พนักงานสอบสวนเบิกความถึงความเชื่อมโยงระหว่างบัญชีทวิตเตอร์กับบัญชีอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กของจำเลย จำเลยจึงรับว่าบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวเป็นของตัวเอง”
“เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของจำเลยและพยานหลักฐานทั้งหมด จึงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด พิพากษาลงโทษจำคุก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักสุด กระทงละ 3 ปี จำเลยกระทำความผิด 2 กระทง ลงโทษจำคุก 6 ปี” ศาลระบุ
หลังทราบคำพิพากษา น.ส. รักชนก ถูกใส่กุญแจมือและพาตัวไปดำเนินการตามกระบวนการที่ใต้ถุนศาล มีคณะทำงาน และ ส.ส. ของพรรคบางคนร้องไห้ ขณะที่ น.ส. รักชนก บอกว่า “ไม่เป็นไร และเดี๋ยวเจอกัน”
น.ส. รักชนก ศรีนอก (ซ้ายมือ) ส.ส. ก้าวไกล เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค (คนกลาง) และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคฯ คนปัจจุบัน เดินทางมาให้กำลังใจ วันที่ 13 ธันวาคม 2566 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ปล่อยตัว น.ส. รักชนก เป็นการชั่วคราว ในระหว่างการอุทธรณ์คดี โดยใช้เงินหลักประกันจำนวน 500,000 บาท และมีกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยร่วมการกระทำหรือร่วมกิจกรรมที่มีลักษณะเดียวกันกับข้อหาที่ถูกฟ้อง
น.ส. รักชนก สมัครลงเลือกตั้งในนามพรรคก้าวไกลเป็นสมัยแรกในเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ และสามารถเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญ คือ นายวัน อยู่บำรุง ลูกชายของ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ผู้กว้างขวางย่านฝั่งธน ส่วนในก่อนหน้านั้น เธอเคยให้ความเห็นบนโลกออนไลน์สนับสนุนการรัฐประหาร ปี 2557 เพราะช่วยยุติความขัดแย้งได้ ก่อนที่จะเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นประชาธิปไตย
น.ส. รักชนก ได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. กรุงเทพ เขตบางบอน-หนองแขม ในการเลือกตั้งปี 2566 ซึ่งหากถูกพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีชั้นอุทธรณ์ ก็จะทำให้ น.ส. รักชนก เป็นบุคคลที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและถูกคุมขังตามหมายศาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(6) เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ทันที และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน
อย่างไรก็ตาม หากคดียังไม่มีคำพิพากษาชั้นฎีกา น.ส. รักชนก สามารถกลับมาลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกครั้ง
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไปแล้ว อย่างน้อย 1,935 คน ในจำนวน 1,262 คดี เป็นคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ หรือ ม.112 อย่างน้อย 285 คดี มีผู้ต้องหา 262 คน มีผู้ที่ถูกคุมขังระหว่างการต่อสู้คดี ม.112 อย่างน้อย 7 คน เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว