ไฟไหม้รถทัศนศึกษาจากอุทัยธานี นักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก

นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2024.10.01
กรุงเทพฯ
ไฟไหม้รถทัศนศึกษาจากอุทัยธานี นักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยยืนโดยรอบรถบัสหลังเกิดเพลิงไหม้ ทำให้นักเรียนและครูกว่า 20 ราย เสียชีวิต บนถนนวิภาวดีรังสิต ชานเมืองกรุงเทพฯ วันที่ 1 ตุลาคม 2567
ชาลินี ถิระศุภะ/รอยเตอร์

เกิดเหตุรถบัสซึ่งนำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มาทัศนศึกษา เกิดเพลิงไหม้ที่ถนนวิภาวดีขาเข้า เป็นเหตุให้มีนักเรียนและครูเสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ด้าน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานแล้ว โดยขอแสดงความเสียใจ และรัฐบาลพร้อมที่จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

“ตามกฎหมายก็ต้องชันสูตร ผมจะขอความร่วมมือให้ชันสูตรโดยเร็ว เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา เราจะเอาเขากลับบ้านโดยเร็วที่สุด การดูแลเต็มที่อยู่แล้ว ผู้บาดเจ็บอยู่โรงพยาบาลถึงมือหมอแล้วทุกคน คนที่เสียชีวิต ตอนนี้จากการพิสูจน์ไล่เช็ครายชื่อ (เสียชีวิต) ประมาณ 25 คน แต่ขอให้ตัวเลขนิ่งก่อน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวหลังจากถึงที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้า ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 25 ราย แบ่งเป็นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 23 ราย ส่วนอีก 2 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต

“ผู้ขับขี่ได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุ ตอนนี้ได้ให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัว” พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวกับสื่อมวลชน

รายงานข่าวหลายสำนักรายงานตรงกันว่า หลายชั่วโมงต่อมา คนขับรถบัสคันดังกล่าวได้หลบหนีกลับมาถึงบ้านเกิดที่จังหวัดสิงห์บุรี และได้เข้ามอบตัวกับตำรวจในเวลาประมาณ 19.00 น. 

“จากการสอบสวนพยาน สันนิษฐานว่าเกิดจากยางล้อรถยนต์ระเบิดขึ้นมา ทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถ จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องโดยสาร” พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวเพิ่มเติม

เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 12.20 น. โดยมีรถบัสถูกเพลิงไหม้หนึ่งคัน บนถนนวิภาวดีขาเข้า หน้าห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต ใกล้กับซอยพหลโยธิน 72 บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า โดยรถบัสคันดังกล่าว เป็นหนึ่งในสามคันที่นำนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ประถม และมัธยมต้น จากโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม มาทัศนศึกษา 

รถบัสคันที่เกิดเหตุ เป็นรถบัสคันที่สองของขบวน มีผู้โดยสาร 44 คน เป็นครู 6 คน และนักเรียน 38 คน โดยเพิ่งเดินทางออกมาจากการทัศนศึกษาที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา สำหรับผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต และโรงพยาบาลราชวิถี

“ต้องรอให้เขาทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลก่อนว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิด จะต้องมีเซฟตี้ ทำไมรถบัสแบบนี้ ทำไมลุกไหม้ได้ง่าย ต้องดูแล้ว ถ้าไม่มี (เซฟตี้) ก็น่าจะผิดกฎหมาย” นายอนุทิน กล่าว

241001-th-bus blaze.jpg
ญาติของเด็กหญิงที่รอดจากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัส ใช้มือปิดตาของเด็กหญิงขณะเดินผ่านซากรถบัสที่ถูกไฟไหม้ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 (เอเอฟพี)

ด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นสาเหตุของเพลิงไหม้คาดว่า เกิดจากรถบัสคันดังกล่าวเฉี่ยวกับรถยนต์อีกคัน และเสียหลักไปเฉี่ยวกับแผงกั้นข้างทาง จนทำให้เกิดประกายไฟลุกลามกับถังเชื้อเพลิง

“มันเกิดจากตัวรถไปเฉี่ยวข้างทาง มีเศษไฟออกมา ก็เลยติดที่ถังแก๊ส เบื้องต้นทราบว่า รถคันนี้ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง เป็นเรื่องซึ่งกระทรวงเองต้องไปพิจารณา ถ้าเป็นไปได้ถ้ามันอันตราย สำหรับรถขนส่งลักษณะนี้ก็อาจจะต้องให้เลิกใช้เชื้อเพลิงอันนี้ เพราะมันสุ่มเสี่ยงมากจากข้อมูลในเบื้องต้น ผมจะไปดูอำนาจของกระทรวง ถ้ามั่นสุ่มเสี่ยงก็อาจจะให้ยกเลิกสำหรับรถที่ใช้ CNG” นายสุริยะ กล่าว

หลังจากเกิดเหตุ นายชำนาญ เอี่ยมยิ้ม เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ร่างของผู้เสียชีวิตจะถูกลำเลียงไปส่งยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิสูจน์การเสียชีวิตอย่างละเอียด 

241001-TNP-schoolbus-1.jpg
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบซากรถบัส หลังจากรถถูกไฟไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเหตุให้มีเด็กนักเรียนและครูเสียชีวิตหลายราย วันที่ 1 ตุลาคม 2567 (ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ-ไทยนิวส์พิกซ์/เบนาร์นิวส์)

นายกรัฐมนตรีได้เขียนข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านบัญชีเอ็กซ์ 

“ในฐานะแม่ ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในฐานะรัฐบาล ได้สั่งการให้ท่านอนุทิน ท่านสุริยะ และ ท่านซาบีดา ลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเองแล้ว โดยรัฐบาลจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตค่ะ” น.ส. แพทองธาร ระบุ 

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 องค์การอนามัยโลกรายงานว่า อุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 ราย และบาดเจ็บ 1 ล้านรายต่อปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 รายต่อวัน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง