การท่องเที่ยวในเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่ ไม่ตรวจโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีน
2023.01.05
กรุงเทพฯ, จาการ์ตา, กัวลาลัมเปอร์ และมะนิลา
ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เศรษฐกิจส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว โดยไทยประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะไม่กำหนดให้มีการตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเริ่มเดินทางมาในสัปดาห์หน้า
แม้ว่าองค์การอนามัยโลกจะเตือนว่า จีนกำลังเป็นผู้แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างรุนแรง
เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ประเทศไทยประกาศว่านักท่องเที่ยวจากจีนไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนออกเดินทาง แม้ว่าจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงในประเทศของตนก็ตาม ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหล่านี้ ซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงินจากนักท่องเที่ยวจีนมาช้านาน ต่างต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดผลกระทบจากการระบาดโควิด
หลังประชุมร่วมกับ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่แออัด โดยกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ต้องการผลการตรวจโควิดจากนักท่องเที่ยวจากประเทศใด ๆ … นี่เป็นโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเรา และฟื้นตัวจากการสูญเสียที่เราประสบมาเกือบสามปี
“ต้องปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวอย่างเท่าเทียม โดยข้อเท็จจริงคือการระบาดของโควิดเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจะยังกำหนดมาตรการให้นักเดินทางฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม และต้องให้ซื้อประกันสุขภาพเดินทางที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโควิด-19 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ หากตรวจพบเชื้อหรือป่วย
ตามข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในจีน เป็นจำนวนมากถึง 205,735 ราย ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิต 635 ราย
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม จีนประกาศว่า จะยกเลิกมาตรการห้ามการเดินทางออกนอกประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม หลังจากที่มีการตรวจพบการแพร่ระบาดครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อปลายปี 2562 จีนประกาศห้ามการเดินทางออกนอกประเทศอย่างเข้มงวด โดยอนุญาตเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นจริง ๆ
'เส้นเลือดใหญ่' ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค
ทันทีหลังการประกาศ ภาคบริการการท่องเที่ยว trip.com มีการจองเที่ยวบินขาออกจากจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้น 254% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง 10 อันดับแรก
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่น่าแปลกใจ เพราะก่อนเกิดโรคระบาดในประเทศจีนที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ก็มีชาวจีนถึง 32 ล้านคน เดินทางท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2562 ตามข้อมูลของ เรน เวิร์ลด์วิว (Rane Worldview) บริษัทวิจัยความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และในหนึ่งปีต่อมา จำนวนดังกล่าวลดลงเหลือ 4 ล้านคน
“นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นสัดส่วนหลักของภาคการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการขาดหายไปอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวจีน จะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค” จากข้อมูลเมื่อกันยายนปีที่แล้ว
“ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 … ส่งผลกระทบต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้การท่องเที่ยวสร้างทั้งงานและรายได้จำนวนมาก”
ก่อนหน้านั้น เรน เวิร์ลด์วิว กล่าวว่า การหายไปของนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นเวลานานจะ “เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว หลังการแพร่ระบาด” ของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศเหล่านี้
นักท่องเที่ยวถ่ายรูปบริเวณพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 (แจ็ค เทย์เลอร์ /เอเอฟพี)
'อยากให้นักท่องเที่ยวทุกคนมีการตรวจหาเชื้อโควิด'
ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม และพันธมิตรธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากำลังดีใจกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน
ถึงกระนั้น ผู้ประกอบการบางรายก็ยังคงหวาดวิตก หากจะเกิดสถานการณ์โควิดขึ้นมาอีก หลังจากเจอผลกระทบแพร่ระบาดโควิด-19 มี่ทำลายเศรษฐกิจของประเทศไปอย่างสาหัส
แซค ผู้ให้บริการเรือ ในพูเลา คาปัส รัฐตรังกานู เกาะในมาเลเซีย กลัวว่าจะต้องพบเจอกับมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 อีกครั้ง
“รัฐบาลไม่ควรเปิดประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ปกติ” แซค กล่าวกับเบนาร์นิวส์ โดยขอไม่เปิดเผยนามสกุล
“ผมกลัวว่าจะถูกล็อกดาวน์อีกครั้ง” เขากล่าว พร้อมบอกว่า จะไม่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอีกเลย ถ้าจะต้องล็อกดาวน์ เพราะมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเลเซียกล่าวว่าจะคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งหมด โดยตรวจหาไข้และตรวจสอบน้ำเสียจากเที่ยวบินที่มาจากจีน
ผู้ที่มีไข้สูงหรือมีอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือมีอาการของโควิด-19 จะถูกส่งไปยังศูนย์กักกันโรค หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม
รัฐซาบาห์ ซึ่งรวมถึงรัฐซาราวัก มีอำนาจปกครองตนเองมากกว่ารัฐอื่น ๆ ของมาเลเซีย ไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลกลางในเรื่องนโยบายการเดินทางช่วงโควิด
ซาบาห์ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ประกาศว่าเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม นักท่องเที่ยวจากจีนจำเป็นต้องได้รับวัคซีนครบโดส และยังต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิดที่เป็นผลลบ ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ
นักท่องเที่ยวชาวจีน (กลาง) สวมหน้ากากอนามัย หลังการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งเริ่มขึ้นในเมืองอู่ฮั่นของจีน เดินทางถึงท่าเรือนูซาเปนิดา พร้อมกับคนอื่น ที่ท่าเรือเร็วในเกาะเซรังกัน เมืองเดนปาซาร์ เมืองหลวงของบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 27 มกราคม 2563 (ซันนี ทัมเบลากา/เอเอฟพี)
ในประเทศไทย นางพรพิมล รุ่งรัศมีทรัพย์ ผู้ประกอบการโรงแรม เทียรี่ รีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเนื่องจากคนจีนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ แต่ยังกังวลกับการไม่ตรวจโควิดก่อนการเดินทาง
“การออกนอกประเทศของคนจีน คือเรื่องใหญ่มากของเรา มันหมายถึงจำนวนห้องที่จะขายได้ ห้องเราไม่เต็มมาหลายปีแล้ว พอรู้ข่าวว่าเราจะไม่ตรวจโควิดนักท่องเที่ยวจีนเลย เริ่มรู้สึกหวั่น ๆ เกิดโควิดระบาดอีกรอบ จากกำลังจะลืมตาอ้าปาก อาจกลายเป็นหนักกว่าที่เป็นอยู่” นางพรพิมล กล่าว
“แต่อยากให้เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน เชียงใหม่พร้อมต้อนรับมาก ๆ แต่ก็อยากให้ตรวจโควิดนักท่องเที่ยวด้วยเหมือนกัน อย่างน้อย ๆ ตรวจเอทีเค ก็ยังดี” นางพรพิมล กล่าวเพิ่มเติม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวระหว่าง 18 ถึง 25 ล้านคน ในปีนี้ ขณะที่สภาหอการค้าไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนไทยประมาณ 5 ล้านคน
นักท่องเที่ยวโต้คลื่นในเมืองเจเนอรัลลูนา บนเกาะทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ วันที่ 7 ตุลาคม 2565 (เฟอร์ดินันดห์ คาเบรรา/เอเอฟพี)
ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเพิ่งออกมาตรการผ่อนคลายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีนก็ตาม แม้จะมีนายแพทย์หนึ่งราย ที่ยังเห็นด้วยกับกับมาตรการเข้มงวดควบคุมสำหรับนักท่องเที่ยวจากจีน
“เราต้องขอให้นักท่องเที่ยวชาวจีนส่งผลตรวจ RT-PCR 48 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบิน และแน่นอน ต้องมีการตรวจเช็คเมื่อเดินทางมาถึง” ดร.โทนี ลีชอน ซึ่งเคยอยู่ในทีมที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลเกี่ยวกับโควิด-19 กล่าวกับเบนาร์นิวส์
โควิดสายพันธุ์ใหม่ อาจจะพลิกผันสถานการณ์โควิดของฟิลิปปินส์ จากที่สามารถควบคุมการแพร่กระจายได้ ดร.โทนี กล่าว
“เราไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ แต่การตรวจหาเชื้อก่อนออกเดินทางและมีการกำหนดให้แสดงผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ เมื่อออกเดินทางจากจีนไปฟิลิปปินส์ สามารถช่วยบรรเทาการแพร่ระบาดได้ ในขณะที่เรามีการตรวจสอบและทำความเข้าใจกับเชื่อสายพันธุ์ใหม่นี้”
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลชาวอินโดนีเซียกล่าวว่า ไม่ได้วางแผนป้องกันการเข้าเมืองเป็นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากประชากรมีภูมิต้านทานในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม นักระบาดวิทยา ดิกกี้ บูดิแมน กล่าวว่า จำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
“อินโดนีเซียต้องรักษามาตรการเข้มงวดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องมีกลไกหรือขั้นตอนที่อย่างน้อยสามารถรับประกันได้ว่าทุกคนที่เข้ามาในอินโดนีเซียจะไม่นำเชื้อร้ายใด ๆ เข้ามา” เขากล่าวกับเบนาร์นิวส์
“หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไม่ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้น พวกเขาจะต้องตรวจ PCR เพื่อยืนยันผลโควิด-19 เป็นลบ”
ส่วนใหญ่คนในภูมิภาคนี้ได้แต่หวังว่า นักท่องเที่ยวจีนจะได้รับวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพมาแล้ว
มาริโอนิโต มาร์กอส คนขับแท็กซี่ชาวฟิลิปปินส์ วัย 58 ปี ให้บริการเส้นทางจากสนามบินแห่งชาติ ในกรุงมะนิลา ได้เปรียบเทียบสถานการณ์นี้เหมือนกับเกมรัสเซียนรูเล็ต
“คุณไม่มีทางรู้ว่าผู้โดยสารของคุณมี [เชื้อโควิด] หรือไม่ พวกเขาอาจเป็นพาหะ เราก็ไม่รู้” เขาบอกกับเบนาร์นิวส์
“แต่คนยังต้องทำงานและอยู่รอดด้วย และผมเชื่อว่าตราบใดที่คุณได้รับวัคซีน คุณจะไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องปกติใหม่ของเรา” มาร์กอสกล่าว
คุณวุฒิ บุญฤกษ์ จากเชียงใหม่ และวิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช จากกรุงเทพฯ ร่วมรายงาน