ตำรวจเตรียมขอหมายจับเจ้าของโกดังเก็บพลุมูโนะ

มาตาฮารี อิสมาแอ และมารียัม อัฮหมัด
2023.08.01
นราธิวาส และปัตตานี
ตำรวจเตรียมขอหมายจับเจ้าของโกดังเก็บพลุมูโนะ เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดจากกองทัพบกเคลียร์พื้นที่โรงเก็บพลุในบ้านมูโนะ หลังจากเกิดเหตุระเบิด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วันที่ 30 กรกฎาคม 2566
เบนาร์นิวส์

พนักงานสอบสวนเตรียมขอหมายจับสามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุ สถานที่เกิดเหตุระเบิดในบ้านมูโนะ จังหวัดนราธิวาส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และบาดเจ็บกว่า 200 คน หลังจากที่ทั้งสองไม่มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกในวันอังคารนี้  

พ.ต.ต. ไกรศร เหลือนุ่นขาบ พนักงานสอบสวน สภ.มูโนะ กล่าวว่า น.ส. ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ พร้อมด้วยสามี คือ นายสมปอง ณะกุล ได้เดินทางไปประเทศมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุระเบิด ตำรวจได้มีหมายเรียกให้เข้ามาให้ปากคำที่ สภ.มูโนะ ในตอนเช้าแต่ทั้งสองไม่ได้มาตามหมาย

“เขาบอกว่าจะเข้ามามอบตัว ก็ไม่มานะวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ขอหมายจับต่อไป” พ.ต.ต. ไกรศร กล่าวกับเบนาร์นิวส์ในวันอังคารนี้

เหตุโกดังพลุและดอกไม้ไฟระเบิดในพื้นที่บ้านมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีเสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และบาดเจ็บกว่า 200 ราย ขณะที่บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างในรัศมีราว 500 เมตร เสียหายประมาณ 300 หลัง

230801-TH-warehouse-2.jpeg

นายยศดนัย บูละ อาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบลมูโนะ พูดถึงการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวถึง 5 คน ในเหตุโกดังเก็บพลุระเบิดที่บ้านมูโนะ วันที่ 30 กรกฎาคม 2566 (เบนาร์นิวส์)

นายยศดนัย บูละ อาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบลมูโนะ เป็นหนึ่งผู้ที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลังเกิดเหตุระเบิด ขณะเดียวกนัที่มีบุคคลที่เขารักสูญเสียชีวิตถึง 5 คน ในคราวเดียวกัน

“บ้านพ่อผมเหลือแค่เสา พ่อเรากับน้องเราก็โดนไหม้หมดเลย หลานสาวอายุ 8 เดือน กระเด็นออกมา ที่เสียไป 5 คน เป็นน้องสาว 2 คน หลานชายอายุหนึ่งขวบ และหลานสาวอายุแปดเดือนอีกคนหนึ่งคน แล้วก็พ่อคนนึง” นายยศดนัย เล่าย้อนเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดกับครอบครัวให้เบนาร์นิวส์ฟัง

“แม่ก็ถูกปูนซีเมนต์ทับอยู่ ไม่นึกว่าจะเกิดขึ้นกับเรา บ้านก็ไม่มี เพลิงไหม้หมดเลย ก็ช็อค ทำตัวไม่ถูก”

นายยศดนัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เขารีบกลับมาที่บ้าน แต่เลือกที่จะเข้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังก่อน แล้วจึงเข้ามาดูความเสียหายที่เกิดกับบ้านของตนเอง

“ได้ยินเสียงระเบิดตูม ผมได้ยินว่ามันมาทางบ้านผมแน่เลย เพราะผมรู้ว่ามีโกดังดอกไม้ไฟอยู่ตรงนี้ ใกล้บ้าน ผมก็เลยขับรถมา ดูบ้านพ่อมันมีแค่เสาที่บ้านผมพังหมดเลย” นายยศดนัย เล่าย้อนเหตุการณ์ และระบุว่า บิดาของตน เคยมีปากเสียงกับเจ้าของโกดังพลุหลายครั้ง เนื่องจากไม่ต้องการให้นำดอกไม้ไฟมาเก็บไว้ใกล้ชุมชน เพราะเกรงว่าอาจเกิดเหตุระเบิดขึ้น แต่เจ้าของโกดังไม่รับฟัง

หลังเกิดเหตุ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และคณะได้ลงตรวจสอบพื้นที่ พบโกดังที่เกิดเหตุมีขนาดกว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร หลังเกิดเหตุอาคารทั้งหลังพังถล่มลงมา พบหลุม 2 หลุม ห่างกัน 5 เมตร ทั้งคู่มีความลึกประมาณ 3 เมตร กว้าง 5 เมตร มีเศษประทัด พลุ และดอกไม้เพลิงกระจัดกระจายเต็มพื้นที่

เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามกล่าวว่า จากการประเมินเบื้องต้น เชื่อว่าการระเบิดครั้งนี้ เกิดจากดินดำหรือดินเทา ประมาณ 5 ตัน เจ้าของเตรียมส่งออกไปยังมาเลเซียเพื่อการฉลองวันประกาศอิสรภาพจากอังกฤษของมาเลเซีย

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่า โกดังดังกล่าว ถูกจดทะเบียนในชื่อ ร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ มี น.ส. ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ ภรรยาของ นายสมปอง ณะกุล เป็นผู้ขออนุญาตจำหน่ายสินค้าทางด้านการเกษตร ของใช้ในครัวเรือน รวมทั้งประทัดและดอกไม้ไฟ

พ.ต.อ. นิยม สุวรรณคง ผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก และร้านค้าของเจ้าของโกดัง คือ น.ส. ปิยะนุช และนายสมปอง ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ห่างจากโกดังไม่ไกลนัก พบดอกไม้เพลิง พลุ และประทัด น้ำหนักรวมประมาณ 1 ตัน เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด

ต่อมา พล.ต.ท. นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 และ พล.ต.ต. อนิรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.นราธิวาส ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับเจ้าของโกดัง โดยพบว่า เจ้าของโกดังเคยถูกจับกุมในปี 2559 ข้อหาไม่มีใบอนุญาตในการจำหน่ายพลุ-ดอกไม้ไฟ มาแล้ว

“ได้รับการติดต่อจากเจ้าของโกดังดังกล่าวว่าจะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเจ้าของไม่มา ก็จะได้ออกหมายจับ ข้อหาหลัก ๆ คือ การครอบครองการทำให้เกิดระเบิด มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ไม่มีใบอนุญาต” พล.ต.ท. นันทเดช กล่าว

230801-TH-warehouse-3.jpg

สถานที่เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่โกดังเก็บพลุ ที่บ้านมูโนะ จังหวัดนราธิวาส จากภาพถ่ายทางอากาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 (เจ้าหน้าที่จังหวัดนราธิวาส)

โกดังที่เกิดเหตุ มีการขออนุญาตประกอบการพาณิชย์ โดยพบว่า มีการจดทะเบียนพาณิชย์ โดย สำนักงานทะเบียนพาณิชย์ อบต.มูโนะ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2566 ในชื่อ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวีระวัฒน์ ซึ่งมีประเภทธุรกิจ ระบุว่า ขายส่งปุ๋ยเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร จำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรและอุปกรณ์ประมง จำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ประทัดและดอกไม้ไฟตามช่วงเทศกาลต่าง ๆ และจำหน่ายเครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเบ็ดเตล็ด

อย่างไรก็ตาม นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า โกดังมีการขออนุญาตเปิดถูกต้องจาก อบต.มูโนะ แต่เป็นการขออนุญาตขายเครื่องมือการเกษตรและประมง มีการขายประทัดส่วนหนึ่ง แต่ไม่มีการขออนุญาตขายดอกไม้ไฟและพลุไฟ ซึ่งต้องขออนุญาตจากอำเภอ เสนอจังหวัดและกระทรวงมหาดไทย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องอนุญาต แต่จากการสอบถามนายอำเภอสุไหงโก-ลก ยังไม่พบการอนุญาต

สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นรัฐบาลจะให้การช่วยเหลือดังนี้ กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จะจ่ายค่าจัดการศพรายละ 5 หมื่นบาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 3 หมื่นบาท เงินทุนเลี้ยงชีพครอบครัวผู้เสียชีวิต สำหรับ บุตรอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ ครอบครัวละ 5 หมื่นบาท

เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บสาหัส รายละ 3 หมื่นบาท เงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 1.5 หมื่นบาท ค่าซ่อมแซมบ้านที่เสียหายตามค่าซ่อมจริง ตั้งแต่ 1.5 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 2.3 แสนบาท และค่าความเสียหายเครื่องใช้ต่าง ๆ ครัวเรือนละ 5 พันบาท และ การช่วยเหลือจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ค่าซ่อมแซมบ้านเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินหลังละ 4.95 หมื่นบาท และช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละ 2.97 หมื่นบาท ถ้าผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัวช่วยเพิ่มอีกรายละ 2.97 หมื่นบาท

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง