บาดแผลและความหวัง : ชีวิตหมอจระเข้ในยุคเศรษฐกิจซบเซา

อีกหนึ่งเศษเสี้ยววัฒนธรรมไทย วิถีชีวิตหมอจระเข้ที่ยังคงดำรงอยู่
วัชรวิชญ์ ภู่ดอก
2024.09.19
สมุทรปราการ
บาดแผลและความหวัง : ชีวิตหมอจระเข้ในยุคเศรษฐกิจซบเซา สมภพชักมือออกจากปากของจระเข้ ที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567
วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์

เสียงเพลง "Final Countdown" ของวง Europe ดังก้องสนามแสดง ก่อนที่ม่านจะเปิดออก เผยให้เห็น "หมอจระเข้" ในชุดคล้ายตัวละครไกรทอง พร้อมเริ่มการแสดงที่ทั้งตื่นเต้นและอันตราย

ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ สถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการมากว่า 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2493 โชว์จระเข้ยังคงเป็นไฮไลต์สำคัญ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะซบเซา การจับจ่ายใช้สอยของผู้คนและจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดน้อยลงก็ตาม

สมภพ ราษฎร์ดี หรือแม็ก อายุ 36 ปี คือหนึ่งในหมอจระเข้ประจำฟาร์มแห่งนี้ เล่าว่าเกิดและเติบโตที่นี่ เขาผูกพันกับจระเข้มาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ทำงานเลี้ยงจระเข้ที่นี่

แม้จะเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตราย เขากลับมองเรื่องนี้อย่างเรียบเฉย และเล่าให้เบนาร์นิวส์ฟังพร้อมเสียงหัวเราะ

"สถิติโดนกัดเหรอครับ อยู่นี่ก็ห้าหกปี โดนทีเดียว บางทีก็เจ็ดปีโดนที ไม่บ่อยครับ" แม็กกล่าว

โดยหากเกิดอุบัติเหตุต้องพึ่งพาค่ารักษาที่ทางฟาร์มออกให้ แต่ด้วยความรักและความผูกพันในตัวจระเข้ แม็กและเพื่อนร่วมงานก็ยังคงยืนหยัดในอาชีพนี้

ในแต่ละวัน หมอจระเข้ต้องแสดงหกรอบในวันธรรมดา และเก้ารอบในวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แม้จำนวนผู้ชมจะลดลงในภาวะเศรษฐกิจซบเซา พวกเขาก็ยังคงทุ่มเทให้กับการแสดงอย่างเต็มที่

“จากความคุ้นชินก็กลายมาเป็นความชื่นชอบที่ทำให้ตัดสินใจฝึกฝนเพื่อเป็นหมอจระเข้ โดยเริ่มต้นจากการล้างบ่อ ให้อาหาร หลังจากคุ้นชินกับพฤติกรรมของจระเข้แล้ว จึงได้สำเร็จวิชาเป็นหมอจระเข้ร่วมกับพี่น้องเพื่อนร่วมอาชีพเป็นห้าคน โดยมีรายได้อยู่ที่ 13,000 บาท” แม็ก เล่าถึงสภาวะที่ยากลำบากในช่วงนี้

ในยามที่เศรษฐกิจไทยเผชิญความท้าทาย การท่องเที่ยวซบเซา ฟาร์มจระเข้แห่งนี้ก็ได้รับผลกระทบ แต่พวกเขายังคงรักษาคุณภาพการแสดงไว้ หวังว่าจะดึงดูดผู้ชมให้กลับมาเยี่ยมชมอีกครั้ง

โชว์จระเข้ไม่เพียงเป็นความบันเทิง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดมายาวนาน แม้จะมีรอยแผลจากการทำงาน แต่สำหรับแม็กและเพื่อนร่วมงาน การอนุรักษ์วัฒนธรรมนี้ คือแรงบันดาลใจให้พวกเขายังคงยืนหยัดในอาชีพที่เสี่ยงอันตรายนี้

01.JPG
สมภพ ราษฎร์ดี อายุ 36 ปี (ซ้าย) และวีสูตร ปานสมบัติ อายุ 39 ปี (ขวา) ขณะแสดงโชว์จระเข้ที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
02.JPG
เจ้าหน้าที่ยกจระเข้จากบ่อพักเข้าสู่ลานแสดง ในการแสดงจระเข้แต่ละครั้งจะใช้จระเข้ที่มาจากบ่อพักเพื่อความตื่นเต้นในการแสดง ที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
04.JPG
สมภพ ขณะจูบจระเข้ ส่วนหนึ่งของการแสดงช่วงที่สอง โดยจะใช้จระเข้ประจำลานที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
09.JPG
จระเข้จากบ่อพัก ต้องถูกอาบน้ำล้างคราบวัชพืชก่อนพาไปยังลานแสดงเสมอ ณ ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
15.JPG
สมภพกับจระเข้ระหว่างการแสดง ที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
17.JPG
วีสูตรขณะยกลูกจระเข้ ซึ่งมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40-70 กิโลกรัม ที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
22.JPG
นักท่องเที่ยวมักถ่ายรูปคู่กับจระเข้ หลังจากจบการแสดงในแต่ละรอบ ที่ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 24 สิงหาคม 2567 (วัชรวิชญ์ ภู่ดอก/เบนาร์นิวส์)
ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง