บิ๊กโจ๊กยื่น ป.ป.ช. สอบพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันกว่า 200 คน

รุจน์ ชื่นบาน
2024.04.24
กรุงเทพฯ
บิ๊กโจ๊กยื่น ป.ป.ช. สอบพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันกว่า 200 คน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 9 มกราคม 2562
อธิษฐ์ พีระวงศ์เมธา/รอยเตอร์

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล เข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันพุธนี้ เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของหัวหน้าพนักงานสอบสวนและคณะพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับคดีการฟอกเงินจากเครือข่ายเว็บการพนันออนไลน์ ที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ถูกกล่าวหาว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องว่าทำโดยชอบธรรมหรือไม่

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่าได้ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งพนักงานสอบสวนกว่า 200 คน ในความผิดตามมาตรา 157 เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

“ในการสอบสวน คดีที่ตัวเองและพวกถูกกล่าวหา เป็นการสอบสวนโดยมิชอบ และไม่มีอำนาจสอบสวน เนื่องจากเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ พนักงานสอบสวนจะต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่รับการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช.มาตรา 61” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ระบุ

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า มูลค่าความเสียหายในคดีมีมากกว่า 300 ล้านบาท จึงเข้าเงื่อนไขให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ทำคดีแต่พนักงานสอบสวนชุดทำคดีกลับไม่ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ตามขั้นตอน จึงถือว่าพนักงานสอบสวนชุดนี้ไม่มีความโปร่งใส

“เชื่อว่ามีการวางแผนเป็นขั้นตอน เพื่อกลั่นแกล้งไม่ให้ผมขึ้นเป็น ผบ.ตร.” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

ด้าน พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการทำงานของหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการทำคดีฟอกเงิน ว่าตนเองได้รับมอบจาก ผบ.ตร.ให้เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้ทำไปตามหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาจงใจจะไปกลั่นแกล้ง ซึ่งทำทุกอย่างตรงไปตรงมา และยังขอให้อัยการมาร่วมสอบสวนด้วย 2 คน และมีเจ้าหน้าที่ ปปง.

“ทุกอย่างอยู่ในรูปของคณะกรรมการทั้งหมด ไม่มีใครสามารถกลั่นแกล้งใครได้ และทุกคนมีความเห็นได้” พล.ต.อ. ธนา ระบุ

“กรณีที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยื่นต่อ ป.ป.ช. ก็แล้วแต่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จะพิจารณา ส่วนตัวมองว่า การที่ทำตรงไปตรงมา ถูกต้องชอบธรรมโปร่งใส จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ พร้อมยืนยันว่าไม่กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว” พล.ต.อ. ธนา กล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ จะเดินทางไป ยื่นคัดค้านกรณีที่พนักงานสอบสวนได้ส่งหลักฐานการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ส่งให้ ปปง. ก่อนหน้านี้ เป็นการได้มาโดยมิชอบ ไม่สามารถนำมาประกอบสำนวนได้ ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และประธานก.ตร. ว่าการออกคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการออกคำสั่งโดยมิชอบ และหลังจากนั้นจะมีการ ดำเนินคดีอาญากับรักษาราชการแทน ผบ.ตร. กรณีออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยไม่ชอบ ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

นอกจากนี้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ยังกล่าวถึงการยื่นถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบในการแต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยจากการตรวจสอบแล้ว พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ได้เคยยื่นร้องไว้แล้ว และ ป.ป.ช. รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าไปยื่นฟ้องอีกจะกลายเป็นการฟ้องซ้ำและทำให้การตรวจสอบล่าช้า

ทั้งนี้ นายกฯ อยู่ในกระบวนการ แต่ไม่ได้มีเจตนาในการกระทำผิด เพราะส่งตัวกลับตำรวจเพื่อต้องการทำงานให้ประชาชน

ที่ผ่านมา พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการตำแหน่ง ผบ.ตร. เคยเปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หลังจากที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ถูกศาลอาญาออกหมายจับคดีฟอกเงินเครือข่ายพนันออนไลน์ในวันอังคาร นักวิชาการชี้ องค์กรตำรวจควรถูกปฏิรูปแล้ว

“เมื่อกองวินัยพิจารณาว่า มีเหตุอันควรสงสัยในการกระทำผิดวินัยก็เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา คือผม จะต้องพิจารณาว่าจะตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและให้โอกาสผู้ถูกสืบสวนได้ชี้แจง จะยังไม่มีการพิจารณาพักราชการ” พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567

พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ชี้แจงว่า กรณีของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ขั้นตอนตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ระบุว่า สน. เตาปูน ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบคดี และตัว พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ต้องทำหนังสือแจ้งต่อ ผบ.ตร. แล้วหลังจากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีคำสั่งว่า จะดำเนินการอย่างไรกับการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์

การตั้งกรรมการสอบสวนครั้งนี้ สืบเนื่องจากในวันอังคาร ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ที่พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ร้องขอในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งเชื่อมโยงกับคดีเครือข่ายพนันออนไลน์ หลังจากออกหมายเรียกไปแล้ว 3 ครั้ง แต่ไม่มีการไปรายงานตัว

การสั่งย้ายผู้บริหาร สตช. ดังกล่าว สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (ผบช.กมค. ในขณะนั้น) ได้นำตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพัก และจับกุมลูกน้องคนสนิทสองคนของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เมื่อเดือนกันยายน 2566 โดยอ้างว่า เป็นการขยายผลการจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ มินนี่-น.ส. ธันยนันท์ สุจริตชินศรี โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนยัน ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนัน

การจับกุมครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนจะมีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ไม่ถึงหนึ่งเดือน ซึ่ง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เป็นหนึ่งในตัวเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ด้วย แต่ท้ายที่สุด พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ กลายเป็นผู้ได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร. ไป แม้มีความอาวุโสด้านงานตำรวจน้อยกว่า ทำให้มีเสียงวิจารณ์ว่า การบุกค้นบ้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ อาจเป็นการเมืองภายใน สตช. และมีกระแสว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ และพล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ขัดแย้งกัน

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ เปิดเผยว่า ได้แยกสำนวนคดีเป็นสองส่วน คือ สำนวนคดีแรกซึ่งมีผู้ต้องหา 61 ราย ได้ส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)

ขณะที่สำนวนคดีที่สอง ผู้ต้องหาห้าราย ซึ่งมีชื่อ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ รวมอยู่ด้วยจะส่งฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน เนื่องจากพบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายพนันออนไลน์มินนี่ มูลค่า 300 ล้านบาท

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง