ศาลยกฟ้อง ตู้ห่าว-ภรรยา คดียาเสพติดและฟอกเงิน

ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้อง นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน ภรรยา และจำเลยรวม 19 คน (รวมถึงนิติบุคคล) ในคดียาเสพติด ฟอกเงิน และอั้งยี่ เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นพอในการเอาผิด ขณะที่สั่งจำคุกจำเลยที่เหลือ 6 คน ตั้งแต่ 23-29 ปี ในข้อหาที่แตกต่างกัน

“ไม่พบพยานหลักฐานหรือข้อเท็จจริงของโจทก์ที่ชี้ชัดได้ว่า จำเลยรวมตัวกัน และกระทำการเข้าข่ายเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หรืออั้งยี่ เนื่องจากพยานหลักฐานมีน้ำหนักน้อย ไม่หนักแน่นเพียงพอ จำเลยทั้งหมดจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง” ตอนหนึ่งของคำพิพากษา ระบุ

เช่นเดียวกัน ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และยาเสพติดก็ไม่มีหลักฐานที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าจำเลยกระทำความผิด 

“พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักมั่นคงมากพอที่จะทำให้รับฟังได้เนื่องจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินในบัญชีธนาคารไม่สามารถแบ่งแยกได้ว่า เงินที่เข้ามาในบัญชีของจำเลยเป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด หรือการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มในสถานบริการ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัย” คำพิพากษา ระบุ

ในบรรดาจำเลย 25 คน มีผู้ถูกตัดสินจำคุก 6 คน แบ่งเป็นคนไทย 2 คน และคนจีน 4 คน ซึ่งเป็นผู้จัดการ และพนักงานในสถานบันเทิงของนายชัยณัฐร์ 

ถูกลงโทษในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ, ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับคนต่างด้าวเข้าทำงาน ซ่อนเร้น และให้ที่พักพิงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกแตกต่างกันไปตั้งแต่ 21 ปี 24 เดือน (ประมาณ 23 ปี) - 28 ปี 12 เดือน (ประมาณ 29 ปี) และถูกปรับตั้งแต่ 1,790,000 - 2,600,000 บาท

นายชัยณัฐร์ และจำเลยรายอื่น ถูกนำตัวมาจากเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ มาฟังการอ่านคำพิพากษาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยมีญาติของจำเลย และสื่อมวลชน มาร่วมฟังคดีในห้องพิจารณาจำนวนมาก หลังจากมีคำพิพากษายกฟ้อง นายชัยณัฐร์ จำเลยรายอื่น ๆ และญาติของจำเลยในก็มีสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า อัยการโจทก์จะอุทธรณ์คดี และสั่งคัดค้านการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์หรือไม่ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัยการสั่งฟ้อง “ตู้ห่าว” และพวกรวม 41 คน ข้อหายาเสพติด-ฟอกเงิน

ม.สยาม ปฏิเสธเกี่ยวข้องคอร์สอบรม อส. ตำรวจให้คนจีน

เมื่อทุนจีนรุกขนส่งไทย บริษัทรวย แต่คนขับอาจร่วง

ศาลใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษากว่า 4 ชั่วโมง โดยหลังทราบคำพิพากษา นายชัยณัฐร์ และจำเลยรายอื่น ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน 

คดีนี้ถูกเรียกว่า คดีจีนสีเทา หรือคดีตู้ห่าว มีจุดเริ่มต้นจากการที่ตำรวจเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงชื่อ จินหลิง, รลีลา และร้านล้างรถยนต์วิบวับคาร์วอช ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2565 

พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีน 99 คน ที่เสพยาเสพติด และสถานบันเทิงไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ เมื่อตรวจค้นเพิ่มเติม พบรถยนต์สปอร์ตราคาแพงหลังคัน ซึ่งครอบครองโดย นายชัยณัฐร์ นักธุรกิจชาวจีนที่ได้รับสัญชาติไทย ซึ่งมีภรรยาคือ พ.ต.อ. หญิง วันทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ 

นำไปสู่การขยายผลตรวจค้นบ้านพัก คอนโดมิเนียมต้องสงสัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และสุมทรปราการกว่า 30 แห่ง ยึดรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเงินสด รวมมูลค่าของกลางที่ยึดได้กว่า 5,000 ล้านบาท

ในเดือน พ.ย. 2565 ตำรวจได้ออกหมายจับ นายชัยณัฐร์และภรรยา ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้ามอบตัวพร้อมทั้งให้การปฏิเสธ ธ.ค. 2565 ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.อ. หญิง วันทนารีย์ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างการดำเนินคดี

ในเดือน ม.ค. 2566 อัยการสูงสุดได้มีความเห็นสั่งฟ้อง นายชัยณัฐร์ และจำเลยรวม 41 คน ซึ่งมีทั้งคนที่ถูกควบคุมตัวแล้ว และยังไม่ถูกควบคุมตัว อย่างไรก็ตาม มีจำเลยที่ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลอาญากรุงเทพใต้ 25 คน และนิติบุคคล ที่เหลืออีก 16 คน หลบหนี ซึ่งการสืบพยานดำเนินการมา จนกระทั่งศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาในวันอังคารนี้