สหรัฐฯ เตรียมส่งกำลังพลร่วมฝึกคอบร้าโกลด์ปี 66 มากที่สุดในทศวรรษ

สหรัฐจะส่งกำลังพลกว่า 6,000 นาย เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ ประจำปี 2066 ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 190 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตสหรัฐ-ไทย เจ้าหน้าที่สหรัฐและทหารไทย กล่าวในวันอังคารนี้

การฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกร่วมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งในปีนี้ ประเทศจีนจะได้เข้าร่วมในการฝึกด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แม้ว่าก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐจะได้ยิงบอลลูนสอดแนมของรัฐบาลจีนตกในน่านฟ้าสหรัฐก็ตาม ส่วนเมียนมาไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป้นผู้สังเกตการณ์ในการฝึก เนื่องจากการจำกัดจำนวนประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมที่ต้องหมุนเวียนไปตามวงรอบ นายทหารระดับสูงของกองทัพไทย ระบุ

การฝึกคอบร้าโกลด์ครั้งที่ 42 จะดำเนินในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 10 มีนาคม โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในจังหวัดลพบุรี จันทบุรี สระแก้ว และ ระยอง

“ในปีนี้ สหรัฐอเมริกาจะส่งกำลังพลกว่า 6,000 นาย เข้าร่วมการฝึก ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นับว่าเราได้กลับเข้าสู่คอบร้าโกลด์ดั้งเดิมอย่างแท้จริงในด้านการฝึก” พ.อ. เคิร์ท เลฟเลอร์ นายทหารอาวุโสและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กองบัญชาการกองทัพไทย

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา การฝึกถูกลดระดับลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ในปีที่แล้ว สหรัฐฯ ส่งกำลังเข้าร่วมการฝึกน้อยกว่า 3,500 นาย

“ในด้านขอบเขตของการฝึกทั้งจำนวนและความซับซ้อนของกิจกรรมต่าง ๆ นั้น การฝึกคอบร้าโกลด์ในปีนี้จะล้ำหน้าไปกว่าครั้งไหน ๆ” เลฟเลอร์ แถลงต่อผู้สื่อข่าว และระบุว่า การฝึกในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการฝึกด้านไซเบอร์และอวกาศ

“เราได้บูรณาการความร่วมมือในด้านไซเบอร์และอวกาศเข้ามาในการฝึก อีกทั้งยังเดินหน้าทดลองแนวทางการดำเนินกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบในอนาคต” เลฟเลอร์ ระบุ

ทางการไทยในฐานะผู้ร่วมจัดการฝึกครั้งนี้ ระบุว่า มีผู้เข้าร่วมการฝึกทั้งหมด 7,394 นาย จาก 30 ประเทศ แต่ไม่ร่วมกำลังพลจากประเทศเมียนมา หากยังไม่เป็นที่แน่ชัดในวันนี้ว่า จะมีทหารไทยจำนวนเท่าใดเข้าร่วมการฝึกครั้งนี้

“เราไม่ได้เชิญประเทศเมียนมาเข้าร่วมในการฝึกครั้งนี้ เนื่องจากการจำกัดจำนวนประเทศที่เข้าร่วม ที่ต้องมีการหมุนเวียนกันไปทุกปี แต่ที่ผ่านมาประเทศเมียนมาเคยเข้าร่วมการฝึกฯ มาแล้ว” พลเอก ธิติชัย  เทียนทอง เสนาธิการทหาร ตอบคำถามกับเบนาร์นิวส์

ประเทศเข้าร่วมการฝึกหลักประกอบไปด้วย ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย ขณะที่ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และออสเตรเลีย จะเข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน

การฝึกประกอบไปด้วยการฝึกภาคสนาม โดยมีกิจกรรมสำคัญได้แก่ การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง และการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค ระบุว่า ความร่วมมือด้านความมั่นคงและการฝึกคอบร้าโกลด์มีความสำคัญ เนื่องจากมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของบรรดาเกษตรกร นักเรียน และผู้ประกอบการร้านค้า เนื่องจากประมาณ 60% ของเศรษฐกิจโลกอยู่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสองในสามของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งหมดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

“อย่างน้อยหนึ่งในสามของการค้าทางทะเลทั่วโลกเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ดังนั้น ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกันจึงช่วยให้สินค้าที่ผู้ประกอบการชาวไทยและชาวอเมริก้นส่งออกสามารถขนย้ายผ่านภูมิภาคนี้ได้อย่างเสรี ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่งคั่งร่วมกัน” นายโรเบิร์ต ระบุ