คอบร้าโกลด์ลดขนาด งดเชิญเมียนมาร่วมสังเกตการณ์
2022.02.04
กรุงเทพฯ
ในวันศุกร์นี้ ไทยและสหรัฐอเมริการ่วมแถลงข่าว การเตรียมเปิดดำเนินการฝึกคอบร้าโกลด์ ปี 2022 โดยในปีนี้ได้ปรับลดกำลังพลจากแผนเดิมที่จะมีกำลังพลร่วมฝึกเกือบเก้าพันนาย เหลือเพียงกว่า 3,400 นาย และได้ปรับลดรูปแบบการฝึกรบเหลือน้อยลง รวมทั้งงดเชิญเมียนมา และอีก 9 ประเทศ ร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19
การฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ซึ่งเป็นการฝึกร่วมผสมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ในปีนี้เป็นครั้งที่ 41 โดยมีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลักจำนวน 7 ประเทศ ประกอบด้วย ประกอบด้วย ไทย 1,953 นาย, สหรัฐอเมริกา 1,296 นาย, สิงคโปร์ 50 นาย, อินโดนีเซีย 16 นาย, ญี่ปุ่น 35 นาย, สาธารณรัฐเกาหลี 41 นาย และมาเลเซีย 36 นาย
มีประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ จีน 10 นาย, อินเดีย 5 นาย และออสเตรเลีย 18 นาย
และยังมีประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ หรือ MPAT (Multinational Planning Augmentation Team) จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย บังกลาเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ฟิจิ และเวียดนาม รวมชาติที่เข้าร่วมในฐานะต่าง ๆ 20 ประเทศ
ไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าภาพการฝึกคอบร้าโกลด์ ได้งดการเชิญผู้แทนกองทัพเมียนมา และกองทัพอื่น ๆ อีก 9 ประเทศ ซึ่งเคยร่วมในประเทศผู้สังเกตการณ์ (หรือ Observer) เพื่อการป้องกันการกระจายของโควิด-19
“ในปีที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาเคยส่งผู้แทนเข้าร่วมผู้สังเกตการณ์ แต่จากสถานการณ์โควิด ทำให้เราพิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดผู้สังเกตการณ์อาจไม่คุ้มค่ากับข้อจำกัดด้านเวลา จึงได้งดส่วนการจัดผู้สังเกตการณ์ ไม่มีการพิจารณาในส่วนชาติที่จะมาสังเกตการณ์ในครั้งนี้” พลโท ชิดชนก นุชฉายา เจ้ากรมยุทธการทหาร และผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึก กล่าว
กองทัพเมียนมา ถูกบอยค็อตจากชาติตะวันตก เพราะทำรัฐประหารรัฐบาลพลเรือนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ทั้งยังได้โจมตีพลเรือน กองทัพฝ่ายประชาธิปไตย และกองกำลังชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ จนทำให้ชาวกะเหรี่ยงกว่าหมื่นคน ต้องอพยพหนีการสู้รบเข้าออกชายแดนไทยมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ปีนี้
ในปี 2020 (พ.ศ. 2563) เมียนมาได้เข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ เป็นห้วงเวลาที่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดไปทั่วโลก ในปีนั้นกำลังพลเกือบ 10,000 นาย จาก 29 ประเทศ เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ที่นับว่าใหญ่ที่สุด เป็นเวลา 2 สัปดาห์
หากยังไม่ชัดเจนว่า เมียนมาและผู้สังเกตการณ์ชาติอื่น ๆ ได้เข้าร่วมการฝึกไฮบริดเสมือนจริง และแบบตัวต่อตัว เมื่อสิงหาคม ปี 2021 หรือไม่
ปรับลดกำลังพล เหลือร่วม 3,500 นาย
นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย, พลเอก ณตฐพล บุญงาม เสนาธิการทหาร, พันโท บิลล์ กรูบ (Lt. Col. Bill Grube) ผู้อำนวยการแผนกฝึกร่วมผสม คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย (JUSMAG Thai) และ พลโท ชิดชนก นุชฉายา ร่วมกันแถลงข่าว ที่กองบัญชาการกองทัพไทย
โดยจะมีการฝึกร่วมในภารกิจต่าง ๆ เป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. ถึง 5 มี.ค. 2565 ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออก ประจวบคีรีขันธ์ และลพบุรี แต่มีพิธีเปิดเป็นทางการโดยทางออนไลน์ ในวันที่ 22 ก.พ. นี้
“เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 จึงมีการปรับลดกำลังพลจาก 8,964 นาย เหลือ 3,460 นาย โดยปรับรูปแบบการฝึกภาคสนาม งดการฝึกภาคสนามที่เป็นการฝึกขนาดใหญ่ของสามเหล่าทัพ กิจกรรมที่งดการฝึกคือ การฝึกยกพลขึ้นบก การฝึกอพยพพลเรือนออกจากพื้นที่การรบ การฝึกดำเนินกลยุทธด้วยกระสุนจริง” พล.ท. ชิดชนก แถลง
พล.ท. ชิดชนก กล่าวว่า ยังคงเหลือการฝึกผสมในระดับยุทธวิธีของทั้งสามเหล่าทัพ ซึ่งจะดำเนินการลักษณะแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญระดับไม่เกิน 1 กองร้อย โดยแต่ละพื้นที่มีกำลังพลร่วมฝึกไม่เกิน 500 นาย
พล.ท. ชิดชนก กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ในปีนี้ เป็นการฝึกแบบ Heavy Year ต่างจากการฝึกในปีที่ผ่านมาที่เป็นการฝึกแบบ Light Year ที่เป็นการฝึกการวางแผนสถานการณ์ร่วมกัน โดยได้นำแผนที่วางไว้มาฝึกจำลองเหตุการณ์ใน Heavy Year ในปีนี้
ด้าน พันโท บิลล์ กรูบ ผู้อำนวยการแผนกฝึกร่วมผสม กล่าวว่า แม้ว่าปีนี้จะมีการลดการฝึกภาคสนามลง แต่กองทัพสหรัฐฯ ยังคงนำยุทธโธปกรณ์ที่อยู่ในระดับมาตรฐานเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้
“ด้วยการลดการฝึกภาคสนาม แน่นอนว่าเรานำยุทโธปกรณ์เข้ามาน้อยกว่าปีที่ผ่านมามาก เรามีเครื่องบินลำเลียงโรเตอร์กระดก CV-22 สี่ลำ, เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลหนึ่งลำ และเฮลิคอปเตอร์ทางทะเลในตระกูล Black Hawk สิบสองลำเข้าร่วม และมีเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก (LDP USS Green Bay) แม้ว่าจะไม่มีการฝึกยกพลขึ้นบกก็ตาม และจรวดหลายลำกล้องแบบ HIMARS” พันโท บิลล์ กรูบ กล่าว
สองฝ่ายได้วางมาตรการป้องกันการะบาดของโควิด-19 ในระหว่างอยู่ในประเทศไทยสองชั้น คือ หนึ่ง ห้วงการกักตัว (ASQ) ที่ผู้เข้ารับการฝึกทั้งฝ่ายไทยและมิตรประเทศต้องกักตัว 7 วัน และตรวจคัดกรองแบบ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และสอง และห้วงการฝึก จะใช้มาตรการ Bubble and Seal ในทุกพื้นที่การฝึก โดยจะคัดกรองผู้เข้ารับการฝึกทุกวัน และกำหนดให้มีการตรวจ ATK ทุก ๆ 5 วัน